จังหวัดสุรินทร์ เตรียมรองรับโรคโควิด-19. เป็นโรคประจำถิ่น

จังหวัดสุรินทร์ ประชุมความเความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดสุรินทร์ ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 8  มีนาคม 2565  จึงได้กำหนดเกณฑ์การประเมินเพื่อเตรียมความ พร้อมหาก ศบค. กำหนดให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ประกอบด้วย 3  ด้าน คือ ด้านเชื้อโรค ด้านคน และด้านสิ่งแวดล้อมจำนวนรวม 13  ตัวซี้วัด  และจังหวัดสุรินทร์ได้ ดำเนินการขับเคลื่อน กำกับ ติดตาม  โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งผลการประเมิน ผ่านเกณฑ์ทุกตัวชี้วัด ทำให้เชื่อมั่นว่าจังหวัดมีความพร้อมสามารถอยู่ร่วมกับ โควิด-19 ตามวิถีใหม่แบบ New Normal ได้อย่างปลอดภัย

วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิตติภัทรย์พิบูบย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อม ด้วย นายเสริมศีกดิ์  สีสันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์, นายอดิเทพ  กมลเวชช์  รองผู้ว่าราการจังหวัดสุรินทร์, นายแพทย์สินชัย ตันติรัตนานนท์ สารณสุขจังหวัดสุรินทร์,  และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุรินทร์ นายอำเภอทั้ง 17 อำเภอมาร่วมประชุม เพื่อประกาศความพร้อม หาก ศคบ. กำหนดให้ “โควิค-19”  เป็น “โรคประจำถิ่น ทั้งนี้ สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ข้อมูล ณ วันที่ 26  เมษายน 2565  มีผู้ติด เชื้อสะสมจำนวน  26,026  ราย  อยู่ระหว่างการรักษาจำนวน  2,770   ราย  ที่ ผ่านมา จังหวัดสุรินทร์สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกันจังหวัดสุรินทร์ ได้เพิ่มพื้นที่ ปลอดภัยในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ตามโครงการ “หมู่บ้านสีฟ้า”  หรือหมู่บ้านที่ “ไม่มี โควิด-19 “ คือ ภายในหมู่บ้านผู้ติดเชื้อจะได้รับการแยกกักกันตัว หรือรักษาตัวจากชุมชน ครบ 100  เปอร์เซ็นต์ จังหวัดสุรินทร์มี 2,128 หมู่บ้าน เป็น “หมู่บ้านสีฟ้า” ทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 31  สิงหาคม  2564  เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน และดำเนินการตามมาตรการ  COVID Free Setting หรือ 3 P อย่างเข็มข้นและต่อเนื่อง ทำให้ 2  อำเภอในจังหวัดสุรินทร์ คือ อำเภอเมืองสุรินทร์  และอำเภอท่าตูม ได้รับการประกาศ ศบค.ให้เป็นพื้นที่ นำร่องด้าน การท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2564

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจุบันพบว่า ผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรง ซึ่งเป็นผลจาก การได้รับวัคซีนที่ครอบคลุม มีอัตราการเสียชีวิตน้อย และอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยหนัก อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยทรัพยากรทางสาธารณสุขที่มี ปริมาณการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมทั้งจังหวัด  รวมถึงระบบการควบคุมโรคที่เป็นระบบ การให้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน  และการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ

จังหวัดสุรินทร์โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุรินทร์ ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 8  มีนาคม 2565  จึงได้กำหนดเกณฑ์การประเมินเพื่อเตรียมความ พร้อมหาก ศบค. กำหนดให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ประกอบด้วย 3  ด้าน คือ ด้านเชื้อโรค ด้านคน และด้านสิ่งแวดล้อมจำนวนรวม 13  ตัวซี้วัด  และจังหวัดสุรินทร์ได้ ดำเนินการขับเคลื่อน กำกับ ติดตาม  โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งผลการประเมิน ผ่านเกณฑ์ทุกตัวชี้วัด ทำให้เชื่อมั่นว่าจังหวัดมีความพร้อมสามารถอยู่ร่วมกับ โควิด-19 ตามวิถีใหม่แบบ New Normal ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นจังหวัดสุรินทร์โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุรินทร์ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 26  เมษายน 2565  จึงขอประกาศความพร้อม หาก ศบค. กำหนดให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ทั้งนี้ตั้งแต่ วันที่ 3  พฤษภาคม 2565  เป็นต้นไป

นายสุวพงศ์ กิตติภัทรย์พิบูบย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ บอกถึงการมาประชุมในครั้งนี้ว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้เตรียมความพร้อมรองรับ “โควิค-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น โดยทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาประชุมสรุปประเด็นการเตรียมการที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้นานแล้วว่าจะประกาศให้จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดนำร่องให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นจังหวัดแรกของประเทศไทยแต่ว่าด้วยจำนวนของสถานการณ์ในช่วงสงกรานต์ก็เลยเลื่อนเวลากันไป เพื่อประเมินตัวเลขในเชิงสถิติให้มาเป็นตัวประกอบของหลักเกณฑ์ต่าง ๆ

โดยในวันนี้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อทุกองค์การได้รวบรวมข้อมูลสถิติตามหลักเกณฑ์ตัวชี้วัดที่ได้ตั้งเป้ากันไว้ออกมาพิจารณาร่วมกัน เมื่อพิจารณาแล้วหลักเกณฑ์ต่าง ๆอยู่ภายใต้ตัวเลขที่สามารถรองรับและสามารถแสดงความพร้อมได้ วันนี้จึงมาแจ้งทางสื่อมวลชนและประชาชนชาวสุรินทร์ทั้งหลายว่าทางจังหวัดสุรินทร์มีความพร้อมแล้วที่จะให้โรคโควิดเป็นเสมือนโรคไข้หวัดธรรมดาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้คนสุรินทร์ได้มีวิถีชีวิตอย่างปกติและก็ขับเคลื่อนเศรษกิจโดยลำดับแรกต้องเปิดด่านชายแดนให้ได้ ต่อไปก็จะพยายามขับเคลื่อนระบบเศรษกิจในจังหวัดให้มีการเคลื่อนที่และก็หมุนเวียนกันให้มากที่สุด โดยวันนี้ส่งหนังสือที่เตรียมไว้ส่งให้ทาง ศคบ.และกระทรวงฯต่อไป

ภาพ/ข่าว: เขมชาติ ชุณหกิจขจร / รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า