จากกรณีนายสันติ สาลีงาม ถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าร้านค้าแฟลตการเคหะทุ่งสองห้อง แขวงและเขตดอนเมือง ก่อนเข้าร้องขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้อง ช่วยติดตามคดี
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. น.ส.พนิดา สีลาลาย อายุ 44 ปี พร้อมนายสันติ สาลีงาม ผู้เสียหาย และทีมงานเพจสายไหมต้องรอด เดินทางมายังสน.ดอนเมือง เพื่อติดตามคดี หลังสามีถูกกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน รุมทำร้าย เหตุเกิด เคหะทุ่งสองห้อง วันที่ 20 พย.65
น.ส.พนิดา กล่าวว่า วันนี้ได้เข้าติดตามคดี และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อเจ้าพนักงาน และจะมาแจ้งความเพิ่มในข้อหาพยามฆ่า เพราะมั่นใจว่าปืนที่ทางฝ่ายผู้ก่อเหตุใช้ทุบหัวสามีตนนั้นเป็นปืนจริง ไม่ใช่ปืน บีบีกัน อย่างแน่นอน โดยจะแจ้งพยามฆ่าแก่ผู้ก่อเหตุ รวมทั้งหมด 5 คน ตอนนี้ตนยังรู้สึกหวั่นใจ กลัวว่าฝั่งผู้ก่อเหตุจะมาทำร้ายอีกเนื่องจากตน ยังคงไม่ได้ย้ายออกจากเคหะ จึงอยากจะเข้าขอให้ทางกระทรวงยุติธรรม ส่งเจ้าหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยให้ด้วย
อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวว่า ทางฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้ลงพื้นที่จนสามารถติดตามตัวผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุได้ 6 คน พร้อมนำตัวมาแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย” เป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึด ปืน บีบีกัน จำนวน 1 กระบอก ซึ่งมีนายไก่ รับว่าเป็นของตนเอง โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา พกพาอาวุธปืนไปในเมือง ชุมชน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรอีก 1 ข้อหา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรอผลตรวจร่างกายของผู้เสียหาย มาประกอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป