วันที่ 17 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความชื่อดัง ตัวแทนวัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องการออกโฉนดที่ธรณีสงฆ์ ที่ดินของวัดป้อมรามัญ การยื่นขอรังวัดสอบเขตที่สาธารณะรอบวัดป้อมรามัญทั้ง 4 ทิศ กับรังวัดที่ดินของสำนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปก่อนหน้าแล้วนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ส่งหนังสือแจ้งให้กับทางเจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ ถึงเรื่องการรังวัดที่ดินใหม่ ตามหลักฐานการแจ้งครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 2 หมู่ 4 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำการออกโฉนดในส่วนที่ธรณีสงฆ์ โดยให้ไปพบ นายกะเชณ มุสิการุณ นายช่างอาวุโส หัวหน้าฝ่ายรังวัด ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตนในฐานะตัวแทนของวัดป้อมรามัญ ได้เข้าพบนายกะเชณ มุสิการุณ นายช่างอาวุโสสำนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อยืนยันการรังวัดสอบเขตเพื่ออกโฉนดในส่วนของที่ธรณีสงฆ์ของวัดป้อมรามัญ โดยทางนายกะเชณ มุสิการุณ นายช่างอาวุโสสำนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เห็นว่ากรณีนี้ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2562 แล้ว จึงจะมีการออกรังวัดให้ใหม่เพื่อทำการออกโฉนดในส่วนที่ที่มีการแจ้งครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ในส่วนที่ขาดไป ภายในวันที่ 9 เดือนมีนาคม 2564
โดยอยากจะแจ้งให้กับประชาชนทราบว่า ณ เวลานี้ว่าที่ดินของใครก็ตามที่การครอบครองที่ดินทำกินก่อนปี 2497 ก่อนที่ประมวลกฎหมายที่ดินจะประกาศใช้ ณ เวลานี้กฎหมายใหม่ชาวบ้านคนใดที่มีที่ดิน ครอบครองทำกินอยู่ ตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย แล้วไม่มีหลักฐาน สิทธิทำกิน ไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน ยังไม่มีโฉนดก่อนประมวลกฎหมายที่ดินจะบังคับใช้ สามารถไปแจ้งการครอบครองกับสำนักงานที่ดินเพื่อขอออกโฉนดได้ ก่อนวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ก็ต้องขอขอบพระคุณกับเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินคนใหม่ที่มีความสนใจและใส่ใจในเรื่องร้องเรียนของชาวบ้าน
ส่วนในเรื่องที่สาธารณะรอบวัดป้อมรามัญ ที่ต้องออกหนังสือ นสล.ทางเราก็ได้มีการกระตุ้นทาง อบต.สวนพริก ให้รีบดำเนินการเอง ซึ่งเป็นความรับผิดชอบโดยตรงที่จะต้องปฏิบัติอยู่แล้ว