เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 มกราคม 2565 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี , นายอดุลย์ มะหะหมัด (บอบอเลาะฮ์) ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี , นางกิ่งกาญจน์ อารักษ์พุทธนันท์ ประธานมูลนิธิตามรอยบาทพระศาสดา และ พระมหาขวัญชัย อัคคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์ (วัดน้ำตก) ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ร่วมแถลงข่าวยืนยันประสิทธิภาพยาสุมนไพรเสริมภูมิของวัดคีรีวงก์ เสริมสร้างสร่างภูมิคุ้มกันได้จริง โดยชาวมุสลิม จ.ปทุมธานี จำนวน 4 คน ที่เดินทางร่วมกับชาวมุลลิมจังหวัดอื่นๆอีก 27 ท่าน รวม 31 คนไปแสวงบุญนครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย จำนวน 14 วัน หลังกลับมา ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 27 ราย ส่วนชาวปทุมธานี 4 รายที่ทานยาสมุนไพรไม่ติดเชื้อเลย
สืบเนื่องจากการเดินทางไปแสวงบุญ ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมีพี่น้องมุสลิมจากทั่วประเทศเช่น กรุงเทพฯ นนทบุรี นครราชสีมา จำนวน 31 คน ในส่วนนี้มีชาวจังหวัดปทุมธานีร่วมด้วยจำนวน 4 คน เมื่อกลับมาประเทศไทยพบว่าติดเชื้อวิด-19 จำนวน 27 คน ส่วนอีก 4 คน ที่ไม่พบว่าติดเชื้อ คือ นายอดุลย์ มะหะหมัด (บอบอเลาะฮ์) ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี , นายไพฑูรย์ ฮึกหาญ อายุ 58 ปี , นายสุพจน์ สมนึก อายุ 52 ปี และนายกมลชัย ยะลาน อายุ 28 ปี ชาวมุสลิมปทุมธานี เนื่องจากได้ทานยาสมุนไพรเสริมภูมิของวัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีมัสยิดจำนวน 32 มัสยิด และมีพี่น้องอิสลามเยอะจึงแต่งตั้ง นายอดุลย์ มะหะหมัด (บอบอเลาะฮ์) เป็นที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อเขาเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมะกะ ก็มีกังวลและห่วง ซึ่งที่ผ่านมาได้ใช้ยาสมุนไพรของวัดคีรีวงก์ แจกให้พี่น้องประชาชนชาวปทุมธานีทั้งไทยพุทธและมุสลิมไปเยอะแล้ว เมื่อกินแล้วได้ผลจึงให้นำติดตัวไป 50 ชุด เพื่อพี่น้องมุสลิมชาวปทุมธานีในการเดินทางไปแสวงบุญ ผลที่ได้รับกลับมาไม่มีใครติดเชื้อโควิด แม้แต่รายเดียว ในส่วนของ อบจ.ปทุมธานีที่ให้ตรวจ ATK พบว่าติดเชื้อ 100 คน จึงให้ยาสมุนไพรไปกิน ทั้งจำนวน 100 คน ผลที่ออกมาหายทั้ง 100 คน ภายใน 3- 5 วัน แต่ที่ชาวมุสลิมกลุ่มนี้ไปจำนวนกว่า 30 คน กินอยู่หลับนอนด้วยกันทั้งความแออัดต่าง ๆ แต่ 4 คนชาวปทุมธานีที่กินยาสมุนไพรไม่พบว่าติดเชื้อ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นสุมนไพรไทยสามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้นกันได้ ทาง อบจ.ปทุมธานีได้ยาสุมนไพรมาจำนวนหลายล้านเม็ดได้แจกให้พี่น้องประชาชนไปทั้งหมด ที่ผ่านมาเทศกาลลอยกระทง เทศกาลปีใหม่พบว่ายอดจำนวนผู้ติดเชื้อภายในจังหวัดปทุมธานีก็ยังคงที่ กำลังหารือกับ คุณกิ่งกาญจน์ อารักษ์พุทธนันท์ ประธานมูลนิธิตามรอยบาทพระศาสดา เพราะว่าโรงเรียนเปิดการเรียนการสอน จะให้ทุกโรงเรียนมียาตัวนี้ติดไว้ที่โรงเรียน เพราะว่าเราไม่สามารถจัดชุดอุปกรณ์การตรวจ ATK ให้ไม่ได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่จะหายาให้ใครพบว่าติดเชื้อให้ยาไปกิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน อยากให้ทุกโรงเรียนมียาสมุนไพรจำนวน 100-200 ชุดในแต่ละโรงเรียนในจังหวัดปทุมธานี
นายไพฑูรย์ ฮึกหาญ อายุ 58 ปี ชาวมุสลิม จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ทางทีมพวกเราไปจำนวน 31 คนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ออกจากประเทศไทยเวลาตี 2 ไปถึงเมืองมาดีนะห์ก็เริ่มทานยาสมุนไพรที่ บอบอเลาะฮ์แจกให้ทาน อยู่ที่เมืองมาดีนะห์จำนวน 4 วันจากนั้นเดินทางไปทางโดยเครื่องบินอีก ซึ่งภายในเครื่องบินก็แออัดมาก เพื่อที่จะเดินทางไปนครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยอยูที่นครเมกกะจำนวน 10 วัน เราก็ทานยาสุมนไพรทุกวันเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไว้จนถึงวันกลับ สภาพแออัดมากมีชาวแอฟริกาจำนวนมากที่อยู่บนเครื่องบินจากนั้นมาเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศกาตาร์ เพื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย ก็กักตัวเพื่อตรวจสวอพ 1 คืน มีผลออกมายืนยันว่าไม่พบการติดเชื้อ และมากักตัวที่บ้าน ซึ่งระว่างนั้นผมยังได้ตรวจสวอพ PCR จำนวน 3 ครั้ง และตรวจ ATK ทุกวันไม่พบว่ามีการติดเชื้อ
ทางด้าน พระมหาขวัญชัย อัคคชโย เจ้าอาวาสวัดคีรีวงก์ กล่าวว่า ยาสมุนไพรชุดนี้สามารถกินเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เนื่องจากปัจจุบันยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสรวมถึงเชื้อตัวใหม่ที่กลายพันธุ์อยู่ขณะนี้ เมื่อร่างกายเกิดภูมิคุ้มกันดีขึ้น อวัยวะภายในแข็งแรง ไวรัสต่าง ๆ ภายนอกร่างกายก็ไม่สามารถเข้าไปทำร้ายอวัยวะภายในได้ จึงต้องทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง เนื่องจากยาสมุนไพรชุดนี้เป็นธรรมชาติและการทำงานครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณกิ่งกาญจน์ อารักษ์พุทธนันท์ ประธานมูลนิธิตามรอยบาทพระศาสดา และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ที่ช่วยสนับสนุนในการบริจาคแคปซูลด้วย ซึ่งทางวัดได้ทำยามาแล้วกว่า 30 ล้านแคปซูล โดยแจกให้ชาวบ้านทั่วไปเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันโรคที่เกิดขึ้นและสามารถป้องกันโรคที่กำลังระบาด เพราะหากภูมิคุ้มกันแข็งแรงแล้วทุกอย่างก็จะไม่เป็นอันตรายต่อชาวบ้านประชาชน จึงอยากให้ทุกท่านได้เห็นถึงความสำคัญว่า ยาสมุนไพรไทยสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านโรคร้ายที่จะทำร้ายร่างกายเรา อยากให้ประเทศของเราพ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทุกคนควรหันกลับมาใช้สมุนไพรไทย.