ไฟไหม้หนักโรงงานรีไซเคิลขยะหลังถูกศาลสั่งปิด

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 16 มิ.ย.65  ร.ต.ท.(หญิง) ชยุติ  บุญจอง   ร้อยเวรสภ.จอมบึง  จ.ราชบุรี  ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ภายในโรงงานรีไซเคิลขยะ ชื่อแวกกาเบจ  ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 8  ต.รางบัว  อ.จอมบึง  จึงประสานขอรถน้ำดับเพลิงจาก  อบต.รางบัวเข้าไปช่วยฉีดน้ำดับเพลิง ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพบว่า แสงเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ภายในอาคารที่เก็บถังสีที่มีการรีไซเคิลแล้ว  โดยมีการระเบิดขึ้นไประยะ และควันไฟยังกระจายไปทั่วไปบริเวณส่งกลิ่นเหม็น  จึงประสานขอรถน้ำดับเพลิงจากต่างพื้นที่ รวมกว่า 80 คัน เข้ามาช่วยระดมฉีดน้ำ  แต่เนื่องจากภายในอาคารนั้นมีวัตถุไวไฟจำนวนมาก  จึงทำให้การดับเพลิงเป็นไปค่อนข้างยาก รวมทั้งทางโรงงานเองก็ต้องคอยตรวจสอบรถที่จะเข้าไปโดยกลัวว่าจะมีบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปด้านใน ซึ่งไฟยังคงไหม้ลุกลามอยู่ตลอด โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบ  เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อจะดับเพลิงให้ได้เพราะหากปล่อยให้ไหม้  ควันไฟที่ปนเปื้อนสารพิษ จะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในบริเวณรอบๆโรงงานได้

จากการสอบถาม นายธนู  งามยิ่งยวด  ชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงงานดังกล่าว  ก็บอกว่ามีคนเห็นว่าไฟไหม้มาตั้งแต่ตีสี่  แต่ทางโรงงานไม่ยอมแจ้งขอความช่วยเหลือ จนควันไฟลอยออกมาไกล  จนถึงโรงเรียนบ้านน้ำพุ  และส่งกลิ่นเหม็น  จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือออกมา  รถดับเพลิงที่จะเข้าก็ต้องขออนุญาติที่จะเข้าไปดับเพลิง  ซึ่งกลิ่นก็ลอยไปทั่วเหม็นมาก อยากให้ดับไฟให้หมดเร็วๆจะได้ไม่มีผลกระทบกับชาวบ้าน

สำหรับโรงงานดังกล่าวนั้นเป็นโรงงานรับกำจัดขยะอุตสาหกรรม  ซึ่งสร้างผลกระทบให้กับชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง ทั้งเรื่องของกลิ่นและน้ำใต้ดินที่ปนเปื้อนสารพิษ  ชาวบ้านฟ้องศาลต่อสู้กันมากว่า 20 ปี  จนสุดท้ายศาลสั่งปิดโรงงาน  และทุกปีที่ผ่านมาก็จะมีไฟไหม้อย่างนี้ตลอด  แต่เพิ่งมา 2 ปีที่ผ่านมาติดโควิด ไฟเลยไม่ไหม้ และภายในโรงงานยังมีอุปกรณ์ที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่จำนวนมาก  ซึ่งโรงงานยังขนย้ายออกมาไม่หมด  จึงทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นมาอีก ทั้งนี้จะต้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาทำการตรวจสอบถึงสาเหตุไฟไหม้ รวมทั้งตรวจสอบว่าโรงงานยังมีการดำเนินการอยู่อีกหรือไม่ หลังจากที่ศาลมีคำสั่งปิดแล้ว

ต่อมานายวิวัฒน์  นิติกาญจนา  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี  พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปยังโรงงานดังกล่าว  พร้อมสั่งการให้งานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี  นำรถดับเพลิงขนาดใหญ่ รถฉีดโฟมแรงดันสูงและรถดับเพลิงที่เป็นหุ่นยนต์  หรือโรบ็อท  เข้าช่วยทำการดับเพลิง  นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานทหารได้นำรถบรรจุโฟมไปช่วยดับไฟอีกด้วย  เบื้องต้นมีอาคารที่ถูกไฟไหม้และถล่มลงมาแล้ว จำนวน 3 อาคาร  แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ด้านนายบุรีพัฒน์  เภาศรี  หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปฎิบัติการบรรเทาสาธารณภัย ในการดับเพลิงภายในโรงงานในครั้งนี้ ได้ให้ข้อมูลว่า ในการดับเพลิงต้องคอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน  เนื่องจากร้อนมาก และน้ำก็ไม่เพียงพอ  และแหล่งน้ำไกล ซึ่งพอฉีดน้ำเข้าไปโดยที่เราไม่ทราบว่าสารที่อยู่ข้างในนั้นเป็นสารอะไรบ้าง  รู้แต่ว่าพอโดนละอองนั้นทำให้รู้สึกคันทั้งตัว  ซึ่งเราต้องระวังตัวหลายอย่าง โดยเน้นให้ทุกคนป้องกันตัวเองเป็นหลัก  โดยเฉพาะเวลาที่มีการระเบิดเศษสังสังกะสีจะปลิวออกมา  จึงต้องป้องกันตัวเองด้วย

นายไพฑูรย์ ปัตตนา  อดีตนายกอบต.น้ำพุ  อ.เมือง  จ.ราชบุรี  ก็ให้ข้อมูลว่า ไฟไหม้มาตั้งแต่ตอนตีสี่ ตนจึงได้มาดูและพบว่าควันไฟจำนวนมาก โดยควันลอยไปไกลหลายกิโลเมตร ส่งกลิ่นเหม็น แสบจมูก  และเวียนหัว ด้วย ซึ่งโรงงานนี้รับกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม  และมีปัญหากับชาวบ้านมากว่า 20 ปี โดยชาวบ้านนั้นฟ้องโรงงาน ที่ทำให้ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นของสารเคมี รวมทั้ง น้ำเสียที่ไหลออกมาจากโรงงานลงลำห้วยจนทำให้ปลาตายน้ำก็นำไปใช้รดพืชผักไม่ได้  และน้ำเสียยังซึมลงใต้ดิน  จนล่าสุดศาลได้สั่งให้โรงงานนั้นหยุดประกอบกิจการ  และให้ดำเนินการแก้ไข  แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการแก้ไขอะไรเลย และยังมีการลักลอบประกอบกิจการ

โดยล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาทราบว่าจะมีผู้เข้ามารับเหมากากขยะอุตสาหกรรมที่ยังอยุ่ในโรงงานทั้งหมด  แต่ก็มาเกิดไฟไหม้เสียก่อน ที่ผ่านมามีไฟไหม้มาทุกปี  แต่ก็ไม่ได้ไหม้มาสองปีแล้วเพราะติดโควิด ประกอบกับศาลมีคำสั่งห้ามประกอบกิจการ  จึงทำให้ไม่มีไฟไหม้  แต่มาปีนี้คาดว่าน่าจะมีการลักลอบทำอีก  จึงทำให้เกิดไฟไหม้และไหม้หนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะในโกดังที่เกิดไฟไหม้นั้นเคยเข้าไปตรวจเมื่อหลายปีก่อนในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกอบต.น้ำพุ อยู่ พบว่าในโกดังมีถังสารเคมีเป็นหมื่นๆลูก   เรื่องผลกระทบตอนนี้ทางผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือนชาวบ้านให้สวมหน้ากกาอนามัย ส่วนเด็กเล็กที่อยู่ทางใต้ลมก็ให้นำไปอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเท  ส่วนน้ำในลำห้วยทวีคูณขึ้น  เพราะปกติก็เน่าเสียอยู่แล้ว พอโดนน้ำที่ใช้ดับเพลิงไหลนำพาสารเคมีลงมาด้วย  ก็ยิ่งเน่าเสียมากขึ้น  เพราะทุกวันนี้น้ำก็เน่าเสียอยู่แล้วและยังไม่ได้รับการแก้ไข  พอเจอน้ำสารพิษที่ไหลมาพร้อมกับน้ำที่ดับเพลิง ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ชาวบ้านก็ต้องรับชะตะตากรรมอย่างนี้ไป  ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้รับการแก้ไข


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า