เจ้าหน้าที่สนธิกำลังยึดไม้สัก ปักขึ้นเสาจ่อสร้างบ้านพัก

พิษณุโลก ยึดไม้สัก ขึ้นเสา จ่อสร้างบ้านพัก จับพิกัดแปลง ตั้งในเขต คทช. ที่ดินของป่าไม้ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง มือดีโค่นต้นสักความโต 150 เซนติเมตรพร้อมแปรรูปไม้ จนท.แจ้งข้อหา ผิด พรบ.ป่าไม้ 2484  ยึดไม้สักเป็นของกลาง ทำคดีส่ง สภ.แก่งโสภา

วันนี้ 23 มี.ค.2565 นายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพิเศษ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้ลักลอบตัดไม้สักอย่างผิดกฎหมาย จึงได้สนธิกำลังตามนโยบายรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ให้บูรณาการทำงานร่วมกันโดยไม่พิจารณาถึงพื้นที่ว่าอยู่ในเขตใด จึงประสานไปยังนายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าสายตรวจ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์(สบอ.)11 นายปรีชา พรมมะกุล หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.8 (น้ำยาง), ตำรวจป่าไม้, ตำรวจ สภ.แก่งโสภา, ปลัดอาวุโสวังทอง, กำนันแก่งโสภา และผู้ใหญ่ หมู่ 3 เดินทางไปบริเวณท้ายวัดถิ่นไทย หมู่ 3 บ้านบ่อ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง

ตรวจสอบจุดเหตุ บริเวณป่าด้านทิศตะวันตกท้าย”วัดถิ่นไทย” แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด ตรวจสอบพบ อยู่ในเขตเตรียมการจัดรูปที่ดินของกรมป่าไม้ (คทช.) ในเขตป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา ซึ่งทราบชื่อว่านาย ก. เป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว โดยได้ตัดไม้สักที่ขึ้นอยู่ในที่ดินดั่งเดิม ไม่ใช่เป็นแปลงไม้สักปลูก ตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่า ได้ขึ้นทะเบียนต้นสักไว้

เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จึงยึดไม้สักท่อน 12 ท่อน ที่ปักหลักเตรียมขึ้นบ้านไม้ คาดว่า เป็นของญาติๆที่ทำงานอยู่ต่างประเทศพอมีฐานะ และมีไม้สักแปรรูปอีก 4  แผ่นเตรียมประกอบขึ้นเป็น บ้านพัก บังเอิญถูกจนท.ตรวจยึดเสียก่อน จึงร่วมกันทำบันทึกตรวจยึดไม้สักของกลาง คือ ไม้สักท่อน 12  ท่อน ไม้สักแปรรูป 4 แผ่น/เหลี่ยม นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายศักดิ์ปรินทร์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ตรวจยึดไม้สักที่ถูกโค่นอย่างผิดกฏหมาย 12 ท่อนและไม้แปรรูปจำนวน 4 แผ่น แม้ว่า ตัดไม้ในแปลงที่ดินของตัวเอง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา ได้สำรวจพบว่า ตอไม้สักที่ถูกโค่นจำนวน 2 ตอสามารถวัดความโตมากสุด คือ 150 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังมีตอไม้สักเล็กๆอีกไม่ต่ำกว่า 2 ตอ ซึ่งเป็นไม้สักที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ ไม่ใช่ไม้สักที่ปลูกขึ้นเอง จำเป็นต้องยึดไม้สัก แจ้งความฐานความผิด ตัดไม้สักโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพรบ.ป่าไม้ 2484 มาตรา ส่วนที่ดินนั้น ไม่ได้ตรวจยึด เนื่องจาก เจ้าของที่ดินนั้น อยู่ระหว่าง เตรียมการขึ้นผังรูปแปลง คชท. แต่ก็ยังไม่มีเอกสารรับรอง  ผิดการทำไม้สัก

ขณะที่ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ยืนยันว่า ลูกบ้านเป็นเป็นผู้ครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าว นาย ก. เป็นผู้ครอบครอง อยู่ในเขต คทช. อยู่ในระหว่างดำเนินการ ปัจจุบันผู้ใหญ่บ้านยังไม่ได้เช็นต์ ใบ คทช.แปลงรวม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้มีประกาศกระทรวงทรัพยากรฯ เรื่อง กำหนดที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิเพื่อให้ไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดิน แต่พฤติการณ์แห่งคดี มีพยานบุคคลยืนยันว่าไม้สักที่ตรวจยึดเป็นไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พิกัดตอไม้สักที่ถูกตัด  เป็นไม้สักที่มีและเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ความโต เกิน 100 เซ็นติเมตรขึ้นไป และไม้สักเกิดขึ้นก่อนที่จะมีบุคคลใดเข้าไปจับจองและเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ จึงทำบันทึกตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามข้อหา พรบ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ฐาน ทำไม้ เจาะ หรือสับ กระทำการใดๆ แก่ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 48  มีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 69 มีไม้หวงห้าม ยังไม่ได้แปรรูป โดยไม่มีรูปรอยดาวตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาต


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า