รวบ “ไอ้แป๊บ” หนุ่ม19 มือฆ่าสาว 18 ยัด กล่องห่อถุงดำบีบคอจนตายก่อนอำพรางศพ

ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุพรรณ เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่6 ก.พ. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7(สส.) พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ,พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์ นวท.(สบ 5) ศพฐ.7 พ.ต.อ.มงคล สุนทรวิภาต นวท. (สบ 4) พฐ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว นายแป๊บ(สงวนนามสกุล)  ตามหมายจับของศาลจังหวัดสุพรรณบุรีที่ จ.17/2565 ลงวันที่ 4 ก.พ. 2565 ในความผิดฐาน “1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่ง การตาย ”โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 262/1 ม.5 ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์

สืบเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.37 น. สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุ พบกล่องต้องสงสัยห่อด้วยถุงดำ มีกลิ่นเน่าเหม็น อยู่ในพงหญ้าข้างแพลนปูนทีดีคอนกรีต ม.7 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จึงแจ้งแพทย์เวรโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชและพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมตรวจสอบพบศพ น.ส.เต็น(นามสมมุติ) อายุ18ปี(ผู้ตาย) บ้านเลขที่2/4 ม.8 ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เป็นคนงานของแพลนปูนดังกล่าว โดยพักอาศัยอยู่ที่พักคนงาน ของแพลนปูนที่เกิดเหตุ สภาพศพถูกยัดในกล่องพลาสติกสีดำ ห่อด้วยถุงดำ ต่อมานายประสาน บิดา ผู้ตายให้การแจ้งว่า ศพที่พบเป็นบุตรสาวของตนเอง

โดยให้การว่าวันที่ 30 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 19.00 น. พบ น.ส.เต็น (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นบุตรสาว พักอยู่ภายในที่พักคนงานของแพลนปูน ทีดี คอนกรีต ต่อมาวันที่ 31 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 08.00 น. ไม่สามารถติดต่อบุตรสาวได้จึงเดิน ไปหาที่ห้องพบว่าประตูห้องมีกุญแจล็อกอยู่ด้านนอก แต่รถจักรยานยนต์ ของบุตรสาวยังจอดอยู่ด้านล่าง จึงสอบถามบุตรสาวคนโตและภรรยาแต่ไม่มีผู้ใดพบเห็นหรือติดต่อผู้ตายได้ และเวลาประมาณ 11.33 น. นายประสานฯ ได้มาพบพบ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เพื่อแจ้งความคนหาย

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นายแป๊บ ได้แจ้งกับหัวหน้าคนงานว่าย้ายมานอนอีกห้องในชั้นเดียวกันซึ่งเป็นห้องว่าง เวลาประมาณ 21.00 น.นายแป๊บได้ปลุกนายโมย คนงานชาวพม่าที่ห้องด้านล่างให้มาช่วยตนขนของโดยอ้างว่าเป็นกล่องขยะ(กล่องภายในใส่ศพผู้เสียชีวิต )ไปไว้ ด้านล่างของอาคาร

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 15.00น. นายแป๊บ จะกลับบ้านที่ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้ขอให้อาขับรถยนต์ไปส่งที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อจะต่อรถเดินทางกลับบ้านที่ จ.กาฬสินธุ์

ต่อมาวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 11.00 น. นายประสานฯบิดาของผู้ตาย โทรแจ้ง สภ.เมืองสุพรรณบุรี ว่าพบกล่องถูกทิ้ง บริเวณหลังบ้านพัก คนงานลักษณะมีกลิ่นเน่าเหม็น เกรงว่าจะเป็นศพ ของบุตรสาวที่หายไปเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสุพรรณบุรีเข้าตรวจสอบกล่อง ดัวกล่าวจากการตรวจสอบพบว่าด้านในเป็นศพเพศหญิงซึ่งนายประสานฯยืนยันเป็นศพของน.ส.เต็น (นามสมมุติ)บุตรสาวที่หายไปจริง พนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวนจึงได้ทำการสอบสวนปากคำ นายโมยคนงานชาวพม่าให้การว่ากล่องที่พบนั้นเป็นกล่องที่นายแป๊บ ได้ให้ ช่วยยกมาไว้ที่ด้านล่างของที่พักคนงานแพลนปูน พนักงานสอบสวนจึงได้ รวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อ ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่ง ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ได้อนุมัติหมายจับ เลขที่ จ.17/2565 ลงวันที่ 4กมุภาพันธ์ 2565 เพื่อจับกุมนายแป๊บ(นามสมมุติ)(ผู้ต้องหา) ในความผิดฐาน “1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่ง การตาย ”

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 7 จึงได้บูรณาการร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 4 ทำการจับกุมตัว นายแป๊บ (นามสมมุติ) (ผู้ต้องหา)ได้ที่บ้านเลขท่ี 262/1 ม.5 ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุ ฆ่า น.ส.เต็น(นามสมมุติ) และหลบหนีมาที่ จ.กาฬสินธุ์ ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม จับกุมตัวได้ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ ได้ฝากถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย  โดยจะรวบรวมพยานหลักฐาน สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในทั้งนี้ ผบช.ภ.7 ขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

สำหรับการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า