วันที่ 16 มกราคม 65 ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.วัลลภ ยั่งยืน ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจราจรและเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เข้าตรวจสอบเหตุรถชนบนถนนสายราเมศวร์ช่วงบริเวณสี่แยกช่องโก ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถชนกันเป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร มีทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายจำนวน 6 คัน ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายกิตติยาคม ตุลยนิษก์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/2 ม.2 ต.วัดจันทร์ อ.สะทิงพระ จ.สงขลา นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนถนนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือนางสาววนิดา หมื่นหนู อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ควบคุมตัวนายสมชาย จิตรหลัง อายุ 52 ปี ชาว อ.เมือง จ.ตรัง เจ้าของรถยนต์กระบะฟอร์ด 4 ประตูสีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน กค 8104 พัทลุง ผู้ก่อเหตุซึ่งอยู่ในสภาพเมาพูดจาวกวน
นายนิตินันท์ จิตบรรจง อายุ 37 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนพาครอบครัวมาทานข้าวที่ร้านข้าวต้มตรงจุดที่เกิดเหตุ โดยจอดรถยนต์อีซูซุแคปสีบรอนด์ทอง หมายเลขทะเบียน บต 6213 พัทลุง ไว้บริเวณข้างถนนหน้าร้านข้าวต้ม ขณะนั่งรออาหารตนเห็นรถกระบะฟอร์ดขับมาด้วยความเร็วชนเข้ากับรถเก๋งมาสด้า2 สีดำ หมายเลขทะเบียน กต 580 พัทลุง ของนายสุจิธร วงษ์สวัสดิ์ ขณะจอดซื้อของจนได้รับความเสียหาย จากนั้นรถกระบะคันดังกล่าวได้พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า สปาร์ค สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กยต 952 พัทลุง ทำให้ร่างนายกิตติยาคมฯ กระเด็นออกจากรถนอนเสียชีวิต และนางสาววนิดา ฯได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายกระเด็นเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถกระบะอีซูซุ สีขาวตอนเดียว หมายเลขทะเบียน 2 ฒม 3896 กรุงเทพมหานคร ของบริษัทสยามชัยเฟอร์นิเจอร์ ที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านใกล้จุดเกิดเหตุในสภาพพังยับเยิน จากนั้นรถกระบะคันก่อเหตุยังพุ่งชนเข้ากับรถกระบะของตนที่จอดหน้าร้านข้าวต้ม และไปกระแทกกับรถจักรยานยนต์ Honda Pcx หมายเลขทะเบียน 1 กณ 5716 พัทลุง ของนายกิจจา ชูชุม ที่จอดหน้าร้านเพื่อมาทานข้าวจนรถพังเสียหายเช่นกัน
ทางด้านนายสมชายฯ ผู้ก่อเหตุเล่าว่าตนเป็นผู้รับเหมางานของทางราชการในหลายจังหวัด ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจากจังหวัดตรัง มาร่วมงานเลี้ยงฉลองเต็นท์รถในพื้นที่ ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง เมื่อออกจากงานเลี้ยงก็ขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองพัทลุงเพื่อหาที่พักและจะเดินทางต่อไปประมูลงานที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงเช้าของวันที่ 16 มกราคม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนเห็นว่าข้างหน้ามีเหตุรถชนอยู่ก่อนแล้ว และด้วยความที่ตนขับมาความเร็ว 70 กม./ ชม. จึงไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ตนยอมรับว่าขับเร็วโดยเฉพาะบนถนนในเมืองที่มีรถมาก และยังยืนยันว่าตนไม่มีความผิดและจะต่อสู้ให้สิ้นสุดในชั้นศาล
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสมชายฯผู้ก่อเหตุไปทำการตรวจวัดแอลกอฮอในร่างกายด้วยวิธีการเป่าลมหายใจ อ่านค่าได้ 242 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินค่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้ควบคุมตัวพร้อมตั้งข้อหาเมาแล้วขับทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ชีวิต