รถบรรทุกก๊าซพลิกคว่ำลงเขาศาลโทนก๊าซรั่วไหลคนขับติดโควิด
เมื่อช่วงสายวันที่ 1 เมษายน 65 ศูนย์วิทยุสื่อสารหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย กบินทร์บุรี รับแจ้งเหตุว่ามีรถบรรทุกสารเคมีไม่ทราบชนิด พลิกคว่ำบริเวณทางโค้งลงเขาศาลเจ้าพ่อปู่โทน ถนนสาย 304 นครราชสีมา-กบินทร์บุรี กม. 210 ในพื้นที่ ม.4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดค้างในยานพาหะนะและมีสารเคมีรั่วไหล เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อผู้สัญจรไปมา หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงหน่วยบริการประชาชนนาดี รถน้ำ อบต.บุพราหมณ์ และอาสากู้ภัยตรวจสอบ
เบื้องต้นจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบบริเวณทางโค้งลงเขา พบรถบรรทุกวอลโว่ หัวลากสีขาว ทะเบียน 71-2679 ปราจีนบุรี ตัวพ่วงสารเคมีทะเบียน 70-5354 ระยอง สภาพพลิกตะแคงข้างส่งผลทำให้ด้านหน้าของรถชนกับคอนกรีตกั้นระหว่างถนน ทำให้ขีดขวางการจราจรฝั่งขวาขาลงเข้ากบินทร์บุรี 1 ช่องทาง การจราจรต้องมีการปิด-เปิด การจราจรเป็นช่วงเพื่อระบาดรถและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ บริเวณห้องโดยสารฝั่งคนขับพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ติดค้างในยานพาหะนะทราบชื่อคือ นายจักริน ภัยอย่ามี อายุ 60 ปี (เป็นคนขับ) หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจะเข้าไปช่วยเหลือพร้อมนำอุปกรณ์ตัดถ่างเพื่อนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากตัวรถ หน่วยกู้ภัยรวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและไทยมุงแตกกระเจิง เมื่อคนเจ็บผลตรวจ ATK เป็นบวก ติดโควิด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องสวมชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด ใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสามารถนำผู้ติดค้างในยานพาหะนะออกมาได้และนำตัวส่ง รพ.นาดี ให้แพทย์รับรักษาต่อไป
จากการสอบถามข้อมูลรถบรรทุกคันดังกล่าว จากเพื่อนร่วมทางที่บรรทุกสารเคมีมาด้วยกัน ทราบว่า บรรทุกสารเคมีมาจากประเทศลาว จะไปส่งที่โรงงานแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดระยอง เป็นสารเคมีชนิดคาร์บอนเหลว ที่มีพิษต่อระบบทางเดินหายใจ และสมอง มีนำหนักประมาณ 15 ตัน ขณะเกิดเหตุมีสารเคมีได้รั่วไหลออกมา ซึ่งเป็นสารไม่ติดไฟ ส่วนคนขับเป็นน้องใหม่พึ่งมาทำงาน คาดว่าจะไม่ชำนาญเส้นทาง
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนาดี กล่าวว่า รถบรรทุกไม่ทราบว่าบรรทุกอะไร เพราะยังตรวจสอบไม่ได้เนื่องจากพบว่าคนขับติดโควิด ส่วนถนนสายนี้บริเวณทางโค้งศาลเจ้าพ่อปู่โทน มักจะเกิดอุบัติแบบนี้บ่อยครั้ง เพราะเกิดจากคนขับไม่เช็ครถบ้าง สภาพรถไม่พร้อม คนขับลงเขาให้เกียร์ 3-4 ส่วนคนขับบอกว่าขณะลงเขาลมเบรกหมด จึงประครองไม่อยู่จึงแหกโค้งลงเขาดังกล่าว
และเมื่อเวลา 14.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ ปภ.เขต 3 ปราจีนบุรี พร้อมรถเคนจำนวน 2 คัน ได้เดินทางมาในที่เกิดเหตุเพื่อเก็บกู้ซากรถบรรทุกก๊าซ ในการเก็บกู้ซากรถนั้นได้ใช้สลิงไปเกี่ยวที่บริเวณช่วงหัวลากเพื่อทำการยกช่วงหัวลากออกไปก่อนแล้วนำช่วงหน้าใส่รถยกเพื่อทำการขนย้าย หลังจากนั้นได้ใช้สลิงไปเกี่ยวช่วงบริเวณพ่วงท้ายที่บรรทุกก๊าซเพื่อพลิกกลับมาแล้วนำไปประกอบกับหัวพ่วงที่เตรียมไว้เพื่อลากออกไป โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถเก็บกู้ซากรถบรรทุกก๊าซออกจากที่เกิดเหตุได้สำเร็จ ก่อนที่เจ้าหน้าที่นั้นกำลังทำการเก็บกู้ซากรถอยู่นั้นได้ทำการปิดเส้นทางฝั่งขาลงไม่ให้รถใช้เส้นทางระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนนในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บกู้ซากรถ หลังจากการเก็บกู้เสร็จทางเจ้าหน้าที่ได้เครียบนพื้นผิวการจราจรโดยใช้ทราบโรยที่บริเวณพื้นถนนที่น้ำมันเครื่องได้ไหลเปื้อนถนนและเก็บชิ้นส่วนขอรถออกจากผิวการจราจร เพื่อความปอดภัย
ข่าว-ภาพ สายชล หนูแดง ทัตธน เหล่าหล้า/ปราจีนบุรี