“พรรคเสมอภาค” ชู “ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์แห่งชาติ” ให้มีสภาชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ ส่งเสริมสิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาค ตั้งแต่เกิดจนตาย
วันที่ 17 ส.ค.65 นางรฎาวัญ(ลดาวัลลิ์) วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค ในฐานะนายกสมาคมไทยลือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าจากการเดินทางไปร่วมงานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยลื้อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง จัดโดย นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง สมาคมไทยลื้อจังหวัดลำปาง และมีสมาคมไทยลื้อ 6 จังหวัดภาคเหนือมาร่วมงานด้วย เมื่อวันที่ 12-13 สิงหาคม 2565 พบว่าการบริหารจัดการสมาคมไทยลื้อจังหวัดลำปางมีความสมบูรณ์แบบทุกด้าน โดยมีนางวนิดา สัตยานุรักษ์ เป็นนายกสมาคมคนปัจจุบัน ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน และหลายองค์กรเป็นอย่างดี
นางรฎาวัญ กล่าวตอนหนึ่งในเวทีเสวนาว่า การส่งเสริมสนับสนุนให้วัฒนธรรมไทยลื้อมีความเข้มแข็ง เป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ชุมชนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้อย่างเป็นรูปธรรม ต้องใช้ “ใจ” เป็นหลัก ต้องกระตุ้นให้พี่น้องชาวไทยทุกกลุ่มชาติพันธุ์ไม่เฉพาะไทยลื้อ มีความตระหนัก เห็นคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมมรดกจากบรรพชนของตนเอง ร่วมมือกันพัฒนาให้รุ่งเรืองและอนุรักษ์สืบสานให้ยั่งยืนยาวนาน
เมื่อทุกคนมี”ใจรัก” วัฒนธรรมของตนเอง ก็จะเกิดจิตสำนึกที่ดี มีความเสียสละอาสาช่วยทุกกิจกรรม ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้น และเชื่อมโยงให้เกิดการพัฒนา ต่อยอดเป็นธุรกิจ เกิดรายได้ทั้งส่วนตัวและองค์กรวัฒนธรรม “มูลค่า”ก็จะเกิดขึ้น เป็นการ”แปลงวัฒนธรรมเป็นทุน”ตามมา ซึ่งประเทศไทยมี “ทุนวัฒนธรรม” อยู่แล้วมากมาย นอกจากนี้ก็ต้องมีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมสนับสนุนชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์โดยเฉพาะ
ทางด้านนายพนพภณษฎ์ ทองคำ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายพรรคเสมอภาค กล่าวว่า การส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตและวัฒนธรรมทุกกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทยให้ต่อเนื่องและยั่งยืน จำเป็นต้องตราเป็นกฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องทำ ไม่ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลกี่ชุดก็ตาม นโยบายส่งเสริมและคุ้มครองชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์จะคงอยู่ตลอดไป เนื่องจากรัฐธรรมนูญได้กำหนดคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิการดำรงชีวิต สังคม วัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตดั้งเดิมของกลุ่มชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ซึ่งในประเทศไทยมีเป็นจำนวนมาก หลังจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้วก็ยังไม่มีกฎหมายออกมาคุ้มครอง เพื่อจะสร้างสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคให้เกิดขึ้นกับชาวไทยทุกกลุ่ม ซึ่งในสาระสำคัญของกฎหมายนี้ กำหนดเรื่องสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค ตั้งแต่ที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ การเข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆยังเข้าถึงสิทธิดังกล่าวได้ไม่เต็มที่ สาระสำคัญมี 3 ด้านคือ 1. ด้านการส่งเสริมคุ้มครองการดำรงชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง 2. การส่งเสริมและคุ้มครองด้านสังคม ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายมีอย่างไรบ้าง 3. ด้านส่งเสริมและคุ้มครองการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตดั้งเดิม ตามความสมัครใจของชุมชน และให้มี”กองทุน” เพื่อใช้แก้ไขปัญหาและพัฒนาชาวไทยทุกกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งกำหนดให้มีสภาชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ในการทำหน้าที่ดังกล่าวร่วมกับภาครัฐตามแนวทางที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ส่วนนายดวงแก้ว สะอาดล้วน นายกสมาคมไทยลื้อจังหวัดเชียงใหม่ นายเอี้ย แซ่ว่าง ประธานเครือข่ายชาวม้งในประเทศไทย และ นางสาววราภรณ์ วงศ์ใหญ่ เลขานุการสมาคมไทยลื้อจังหวัดพะเยา มีความเห็นตรงกันว่า รู้สึกดีใจมากที่นายกสมาคมไทยลื้อแห่งประเทศไทยและหัวหน้าพรรคเสมอภาคมีความตั้งใจจะผลักดันกฎหมายดูแลแก้ไขปัญหาต่างๆของชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์เป็นพิเศษ การสนับสนุนการอนุรักษ์วัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์จะทำได้ต่อเนื่องทุกปีไม่มีสะดุด แม้ว่าฝ่ายบริหารบ้านเมืองจะมาจากกลุ่มการเมืองฝ่ายใดก็ตาม ปัญาต่างๆที่คาราคาซังอยู่นานหลายปีจะมีโอกาสแก้ไขได้เร็วขึ้น และยินดีให้การสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้อย่างเต็มที่
“พรรคเสมอภาคยึดหลักการแปลงนโยบายเป็นกฎหมาย”เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ของรัฐบาลไว้อย่างชัดเจน และเพื่อป้องกันการปล่อยปละละเลยหน้าที่ส่งเสริมและคุ้มครองชาวไทยทุกกลุ่มชาติพันธุ์ จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน การประกอบอาขีพ และปัญหาสัญชาติ ฯลฯ โดยพรรคเสมอภาคจะยกทีมงานเดินสายพบปะพี่น้องชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและขอรับการสนับสนุน ลงชื่อเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์เข้าสภาฯในภาคประชาชนด้วย” นางรฎาวัญกล่าว