กลุ่ม ๙ พัฒนา พร้อมใจกันออกเยี่ยมและมอบข้าวสาร อาหารแห้ง รวมถึงยา ที่จำเป็นให้กับผู้ป่วยที่กักตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด ๑๙ พื้นที่เทศบาลตำบลแม่ริม
เมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๕ จ.ส.อ.ประนม มาลารัตน์ รองประธานสภาเทศบาลตำบลแม่ริม ตัวแทนกลุ่ม ๙ พัฒนา เปิดเผยว่า ทางกลุ่ม ๙ พัฒนาโดยการนำของ นายจุฬา สังเรือง หัวหน้ากลุ่ม ฯได้มอบหมายให้สมาชิกฯลงพื้นที่ ดูแล ทุกข์สุข ของพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลตำบลแม่ริม โดยได้ทำอยู่เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง โดยได้ออกเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และในช่วงเวลานี้ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นเยี่ยมผู้ป่วย และผู้ที่กักตัว จากการแพร่ระบาดของโรคไวรัส โควิด 19 เป็นการมอบของที่จำเป็นในการอุปโภค บริโภค ทั้ง ข้าวสาร อาหารแห้ง รวมถึงยาที่จำเป็นในการกักตัวของผู้ป่วยจากเชื้อโควิด 19 และคนในครอบครัว เป็นการดูแลช่วยเหลือกันเบื้องต้น ด้วยความห่วงใย ใส่ใจในชีวิต และความเป็นอยู่ พร้อมกันนี้ทางกลุ่ม ๙ พัฒนา ยังได้ออกเยี่ยมในชุมชนทรายมูล, ชุมชนน้ำงาม และชุมชนห้วยโจ้ “ใครไม่ดูแล เรา ๙ พัฒนา ขอดูแลเอง” ซึ่ง กลุ่ม๙ พัฒนา เราไม่เคยทิ้งกัน พร้อมที่จะดูแลผู้ตนในพื้นที่
ทั้งนี้สืบเนื่องมากจากเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 65 มีครอบครัวหนึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ ป้า และ ลูกชายวัย 3 ขวบ รวมในบ้าน 8 คน ที่ต้องกักตัวในบ้าน ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากติดโควิด-19 กันทั้งครอบครัว ออกมาตัดพ้อว่าตั้งแต่เริ่มกักตัวมาตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา ไม่มี อสม. เจ้าหน้าที่ รพ.สพ. หรือ เจ้าหน้าที่อื่นเข้ามาดูแลสอบถามอาการ ไม่มีการสนับสนุนอาหารการกิน หรือ ให้คำแนะนำในการรักษาตัวที่บ้าน ทำให้รู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ปล่อยให้ต่อสู้กับโรคโควิด-19 เพียงลำพัง
หลังจากตรวจพบผลบวกจากชุดตรวจเอทีเค และไปตรวจ RT-PCR ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์พร้อมกับอุปกรณ์วัดออกซิเจนเพื่อเข้าระบบรักษาตัวที่บ้านหรือ HI หลังจากนั้นทุกคนในบ้านก็ทยอยติดกันครบทุกคน คนล่าสุดคือพ่อ อายุ 67 ปี ที่ตรวจพบเชื้อวันที่ 29 มีนาคม ทำให้ทุกคนในบ้านต้องกักตัวต่อไปอีกสิบวัน ไปจนถึงวันที่ 7 เมษายน นี้
“หลังจากนั้นทุกคนได้รับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัวอยู่แต่ในบ้าน แต่ก็พบว่านับตั้งแต่กักตัววันที่ 24 มีนาคม จนถึงวันนี้ก็ไม่มีใครมาเหลียวแล อสม.ในหมู่บ้านก็ไม่เข้ามาสอบถามหรือแนะนำอะไร ทำให้ทุกคนต้องดูแลกันเอง ส่วนอาหารแต่ละมื้อ ในช่วงแรกก็นำอาหารที่มีอยู่มาทำกินกันจนหมด จึงเตรียมออกจากบ้านไปหาซื้อหาอาการ แต่โชคดีที่มีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวช่วยเหลือนำอาหารมาวางบนโต๊ะหน้าบ้านให้ หากไม่มีน้ำใจจากเพื่อนบ้านก็ไม่รู้จะอยู่กันอย่างไร”
ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกเหมือนกับถูกทอดทิ้งจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทางครอบครัวของผู้ติดเชื้อได้โพสต์แชร์ประสบการณ์ผ่านสังคมออนไลน์ของอำเภอแม่ริม ทำให้มีคนมาให้กำลังใจและทำให้ทราบว่ามีอีกหลายครอบครัวที่ประสบปัญหาแบบเดียวกัน ทางกลุ่ม ๙ พัฒนา ทราบเรื่อง จึงได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ลงพื้นที่ดังกล่าว.
