จากกรณีที่น้องเจมส์ (นามสมมติ)( ด.ช.สิริพุทธภูมิ พ่วงเขียว อายุ 16 ปี) ชาว จ.เชียงใหม่ ได้เข้ามาร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ จุดแจ้งเหตุประจำสถานีขนส่งหมอชิต ว่า เมื่อเวลา 16.15 น. ของวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ถูกชายรายหนึ่งอ้างตัวเป็นวินจักรยานยนต์ ที่อยู่ด้านหน้าเจเจมอล์ มาหว่านล้อมให้ขึ้นรถ ออกกลอุบายว่าคิดราคาไม่แพง ราว 40 – 50 บาท เพื่อไปส่งผู้เสียหาย2พี่น้องที่ บขส.หมอชิต แต่ผู้เสียหายบอกว่า ต้องไปเปิดบัญชีธนาคารก่อน ชายรายดังกล่าวจึงอ้างว่าสามารถรอได้ แต่เมื่อชายคนดังกล่าวไปส่งผู้เสียหาย พร้อมเรียกเก็บค่าจ้างจำนวน590 แต่ผู้เสียหายไหวตัวทันจึงอ้างว่ามีเงินเพียง 270 บาท จึงโอนไป 200 บาท และจ่ายเงินสดอีก 70 บาท ตามที่มีกล้องวงจรปิดและได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 1 ส.ค.65 เจ้ากน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว นายขวัญชัย คำแสง ผู้ก่อเหตุเข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดยเมื่อนายขวัญชัย พบว่ามีผู้สื่อข่าวคอยติดตามทำข่าวก็ตกใจให้การวกไปวนมา โดยอ้างว่าตนเองไม่ได้มีเจตนาขู่กรรโชกทรัพย์กับผู้เสียหาย เพียงแค่เรียกเก็บเงินค่าโดยสารเท่านั้น เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเรียกเก็บเงินผู้เสียหายเท่าไหร่ ผู้ก่อเหตุอ้างว่าเรียกเก็บไป 40 บาท ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า มีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีจำนวน 200 บาทจริงหรือไม่ เจ้าตัวบอกว่าจริงแต่เป็นค่าเสียเวลา ไม่ได้มีการเรียกเก็บเงิน 590 ตามที่เป็นข่าว แล้วผู้เสียหายก็โอนเงินให้ตนเป็นค่าจ้าง เมื่อถามว่าผู้ก่อเหตุประกอบอาชีพวินจักรยายนต์จริงหรือไม่ เจ้าตัวบอกว่าขับวินจริง แต่ในวันเกิดเหตุกำลังจะกลับบ้านพอดี จึงไม่ได้ใส่เสื้อวิน ส่วนรถจักรยายนต์เป็นรถของแม่ จึงไม่ใช้รถป้ายเหลืองตามที่ขนส่งอนุญาต เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเป็นวินจักรยายนต์ที่ไหน อยู่จุดไหนของจตุจักร เจ้าตัวกลับตอบไม่ได้ และพยายามขอเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรหาญาติ เพื่อร่วมรับฝั่งการสอบปากคำ
ด้าน พ.ต.ท.วรภัทร สุขไทย รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดยาวจึงทำให้มีพี่น้องประชาชนที่มีภูมิลำเนาเดินทางกลับบ้านในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ทำให้คนร้ายอาศัยโอกาสนี้ในการก่อเหตุสำหรับในกรณีนี้ผู้เสียหายเป็นเด็กอายุเพียง13-15ปี เดินทางเข้ามาทำงาน และกำลังจะกลับบ้านในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำเบื้องตน และส่งตัวผู้เสียหายกลับบ้านที่จ.เชียงใหม่ และในวันนี้ได้ประสานผู้เสียหายเข้าสอบปากคำโดยละเอียดอีกครั้ง ต่อหน้าพนักงานสอบสวน,พนักงานอัยการ และสหวิชาชีพฯ ตามกฎหมาย ก่อนจะส่งตัวผู้เสียหายกลับบ้านอีกครั้ง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มอบเงินค่าโดยสารรถทัวร์ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และค่าอาหารติดตัวไปคนละ 2,000 บาท รวมทั้งสิ้น 4,000 บาท และมอบหมายให้ให้ร้อยเวรสายตรวจไปรับ-ส่งผู้เสียหายจาก บขส.หมอชิต เพื่อความสะดวกในการร้องทุกข์เอาผิดกับคนร้ายจนกว่าคดีจะถึงที่สุดเป็นที่เรียบร้อย สำหรับเหตุการณ์ในลักษณะนี้วินผี วินเถื่อนในพื้นที่หมอชิต ก็มีให้เห็น แม้ว่าช่วงหลังๆจะมีน้อยลงก็ตาม นอกจากแนวทางการป้องกันและการจัดระเบียบรถโดยสารต่าง การดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุเพื่อเป็นบทเรียน หรือเยี่ยงอย่างก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นเดียวกัน
ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุจำนวน4ข้อหา 1.เรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคา /2.ใช้รถผิดประเภทฯ ตาม พ.ร.บ.จราจรฯ/3.ไม่มีใบขับขี่รถ จยย. สาธารณะ /และ4.กรรโชกทรัพย์ ซึ่งต้องหาให้การรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุในคดีนี้จริง แต่ขอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยข้อให้การในชั้นศาล