เจ้าหน้าที่ไทยสนธิกำลังร่วมกับกัมพูชา บุกจับ 5 คนจีน 1 คนไทยผู้ต้องหารายสำคัญตามหมายจับ หัวโจกแก็งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา สามารถช่วย 39 คนไทย ส่งข้ามแดนกลับประเทศด้าน จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. และนายชัยวุฒิ ธนาคมสนุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลองลวงคนไทยให้โอนเงินจนเกิดความเสียหายหลายร้อยล้านบาท โดยมีนายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เลขาฯรมว.DES และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวน เข้าประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารประเทศกัมพูชา บุกเข้าตรวจค้นอาคารต้องสงสัยจำนวน 2 แห่ง ในกรุงพนมเปญและเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา หลังพบว่า ทั้งสองแห่งเป็นจุดที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยใช้เป็นแหล่งกบดานในการกระทำความผิด หลอกลวงคนไทยให้โอนเงินด้วยวิธีการต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของไทย และกำลังตำรวจ ทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือได้นำกำลังจู่โจมเข้าตรวจค้นอาคารคาสิโนหลังหนึ่ง กลางเมืองสีหนุวิลล์ จังหวัดกำปงโสม ที่บริเวณชั้นที่ 10 ของอาคาร ที่มีการเช่าช่วงจากบ่อนคาสิโน พบคนไทยกำลังติดต่อสื่อสารด้วยการใช้อุปกรณ์คอลเซ็นเตอร์ติดต่อกับลูกค้าอยู่ จึงเข้าควบคุมตัวคนไทยทั้งหมด จำนวน 32 คน แบะคนต่างชาติอื่น ๆ ด้วย จึงส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาสอบสวน เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดและตรวจสอบสถานการเข้าเมือง ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีก 1 ชุด พร้อมกำลังตำรวจทหารกัมพูชา อาวุธได้นำกำลังจู่โจมเข้าตรวจค้นอาคารที่พักอีกแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามบินนานาชาติกัมพูชา ในกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นอาคาร 8 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ติดรั้วลวดหนามที่กำแพง จากการตรวจค้นพบ คนจีน 5 คน และคนไทย จำนวน 7 คน อยู่ในอาคารดังกล่าว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบว่า มีมีความพยายามเคลื่อนย้ายอุปกรณ์บางอย่างออกจากจุดเกิดเหตุ
พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวน ระบุว่า การบุกเข้าจับกุมที่กรุงพนมเปญ เจ้าหน้าที่พบตัว นายพยัคฆพล ชิงหลู่ อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ซึ่งตรงตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ สตม.ขอศาลออกหมายไว้ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงต้นเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันฟอกเงิน พร้อมกับควบคุมตัวไว้เพื่อส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยในวันนี้ รวม 39 คน ซึ่ง 1 ในนั้นมีนายพยัคฆพล ผู้ต้องหาตามหมายจับด้วย ที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า คนร้ายโทรศัพท์หลอกลวงคนไทยในสถานที่ดังกล่าว โดยใช้สคริปข้อความหลอกเหยื่อคนไทยจากการรับแจ้ง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ถึงปัจจุบัน พบกลุ่มคนร้ายกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน ได้หลอกลวงผู้เสียหายชาวไทย 60 ราย มูลค่าความเสียหายรวมทั้งหมด 73 ล้านบาท และยังพบบัญชีธนาคารที่ใช้ทำความผิด รวมความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยเชื่อว่า ยังมีผู้ที่ยังไม่ได้แจ้งความอีกหลายราย อาจมีความเสียหายมากถึง 200-300 ล้านบาท ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้กระทำความผิดชาวไทย จำนวน 15 ราย เชื่อว่า ผู้ต้องหาบางส่วนทำงานอยู่ในสองจังหวัดดังกล่าว อยู่ระหว่างประสานความร่วมมือกับทางการกัมพูชาเข้าตรวจค้นเพิ่มเติม หลังจับกุม นายพยัคฆพล ผู้ต้องหารายสำคัญไว้ได้
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้มีคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือและทางการกัมพูชานำตัวมาส่งให้กับประเทศไทยทั้งหมด 39 คน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือมาจาก 2 ส่วนคือ ที่เมืองพระสีหนุวิวล์ จ.กำปงโสม และจากกรุงพนมเปญ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องนำไปกักตัวไว้ที่สถานกักตัวของรัฐในพื้นที่ จ.สระแก้ว ก่อนจำนวน 14 วัน ตามกระบวนการของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็จะมีการส่งพนักงานสอบสวนเข้าไปสอบสวนซักถามพูดค่อยก่อนเบื้องตนว่า มีความเป็นมาอย่างไร ไปทำงานที่กัมพูชาได้ยังไง เมื่อไปทำงานและมีปัญหาอะไรต่าง ๆ บ้าง รายละเอียดตรงนี้คงจะต้องรอการสอบสวนเบื้องต้นก่อน ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน สำหรับการขยายผลต่อเนื่องขบวนการนี้ หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีทีมงานคณะพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว ทางกัมพูชาเราก็จะประสานงานกันอยู่ตลอด
นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว