รวบหนุ่มปากท่อย่องขโมยรถจยย.ในร้านค้ารอบเดียว 2 คัน เอาขึ้นรถปิกอัพไปขาย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 พ.ค.65 พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวขม ผกก.สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้นำตัวนายมาโนช สังข์ทอง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 หมู่ 4 ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาขโมยรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ไปชี้จุดบริเวณที่เข้าไปขโมยรถจักรยานยนต์ที่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 5 ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ ซึ่งเป็นร้านขายเกลือและดินสำหรับปลูกต้นไม้ หลัง พ.ต.ท.วัชรินทร์ มีศรีผ่อง รองผผก.สส.สภ.ปากท่อ ได้รับแจ้งจากทางเจ้าของร้านว่ารถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน คือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กษ-9003 ราชบุรี และ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีเทา ดำ หมายเลขทะเบียน ขมว- 907 ราชบุรี ซึ่งจอดอยู่ภายในร้านที่ปิดประตูมิดชิด ได้หายไปในช่วงกลางดึกของวันที่ 27 เม.ย.65 จึงได้ทำออกสืบทราบและตรวจสอบหากล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง จนทราบว่าในช่วงที่เกิดเหตุนั้นได้มีรถปิกอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ สีแดง หมายเลขทะเบียน บห-2730 ราชบุรี มานำรถจักรยานยนต์ไป
ซึ่งเมื่อตรวจสอบตามทะเบียนรถปิกอัพ ก็ทราบว่าเจ้าของรถคือนายวิชัย บุญสืบมา อยู่ตำบลเจดีย์หัก จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบ นายวิชัย เจ้าของรถให้การปฎิเสธว่าไม่ได้ไปขนรถจักรยานยนต์สองคันมา แต่เป็นนายมาโนช (ผู้ต้องหา) นั้นมายืมรถไป เนื่องจากรู้จักกันมานานเพราะนายมาโนชนั้นมารับจ้างทำงานตัดต้นไม้ที่บ้านเป็นประจำ จากนั้นนายวิชัย ได้พาเจ้าหน้าที่ไปพบกับนายมาโนช ซึ่งพักอยู่บ้านอีกหลังในตำบลเจดีย์หัก เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการจับกุม ซึ่งนายมาโนช (ผู้ต้องหา) ก็ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนเข้าไปขโมยรถจักรยานยนต์สองคัน นั้นจริง เพราะเคยนำดินปลูกต้นไม้ไปส่งให้ที่ร้าน และเคยเข้าไปก่อเหตุปีนหลังคากระเบื้องร้านดังกล่าวเข้าไปขโมยเงินได้ประมาณ 3000 บาท ภายในร้านก่อนหน้านี้แล้ว และดูลาดเลาไว้ ต่อมาก็ได้นำรถปิกอัพไปจอดไว้ที่ใกล้กับเนินดิน ซึ่งอยู่ห่างจากร้านประมาณ 200 เมตร ก่อนจะเข้าไปจูงรถจักรยานยนต์ที่เจ้าของเสียบคากุญแจไว้ออกมาทางหลังร้าน ซึ่งไม่ได้ล็อคประตูและนำมาขึ้นรถปิกอัพที่จอดไว้ โดยนำออกมาทีละคัน และเมื่อได้รถจักรยานยนต์ทั้งสองคันแล้วก็นำไปจำนำกับนายเล็ก อดีตผู้ใหญ่บ้านในต.ท่าราบ อ.เมือง เนื่องจากรู้จักกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปยึดรถทั้งสองคันกลับมา และนำผู้ต้องหามาชี้จุดเกิดเหตุในวันนี้
ซึ่ง พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ได้ฝากเตือนสำหรับผู้ที่จะรับจำนำ หรือรับซื้อสิ่งของจากผู้อื่นนั้นให้ระมัดระวัง ต้องมีเอกสารของรถ หรือถ้าเป็นทองคำก็ต้องสังเกตบุคคลที่นำมาขายด้วยว่ามีพิรุธหรือไม่ ซึ่งถ้าหากคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่จุบกุมได้คนรับซื้อก็จะกลายเป็นผู้ต้องหารับของโจรไปด้วย
ด้านนางสาวสุพิชชา เพิกโสภณ เจ้าของรถจักรยานยนต์ทั้งสองคัน ก็เผยว่า ดีใจที่ได้รถคืน ซึ่งในช่วงที่ถูกก่อเหตุนั้นก็นอนอยู่ที่ร้าน แต่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่ยอมรับว่าเสียกุญแจไว้ที่รถเพราะคิดว่า ประตูที่ร้านก็ปิดมิดชิดและแน่นหนา ไม่น่าจะมีขโมยเข้ามาได้ แต่สุดท้ายรถก็ยังหายซึ่งโจรอ้างว่าประตุหลังไม่ได้ล็อค ทั้งตนกับลูกๆก็ใช้เหล็กคล้องไว้ ไม่น่าจะเปิดเข้ามาได้ง่าย แต่เมื่อได้รถคืนมาก็ดีใจ เพราะตอนแรกนั้นทำใจไว้แล้วว่าไม่น่าจะได้คืน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่วนนายวิชัย เจ้าของรถปิกอัพและนายเล็ก อดีตผู้ใหญ่บ้าน ที่รับจำนำรถไว้ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกมาสอบปากคำต่อไป