เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 65 ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Woranipit SC ได้มีการโพสรูปภาพและวีดีโอที่มีชายใส่หมวกกันน๊อคสีขาวเข้ามางัดห้องฟิตเนสและขโมยของไป ลงในโซเชียลโดยมีข้อความว่า “ห้องฟิตเนสโดนทุบ ตู้บุญเติมโดนถอดปลั๊กพยายามโดนยก รอก่อนนะจ้ะ ไล่ดูกล้องวงจรปิดก่อนแล้วเจอกัน สุดแค่ไหนเดี๋ยวเจอกันจ้ะ ถ้าเจอกับตัว ยิงแน่นอน บอกไว้ก่อน เห็นทรงๆ นี้มีใครรู้จัก หรือคุ้น รบกวนแจ้งหน่อยนะคะ มีอุปกรณ์มางัดเลย ใช้เวลาอยู่ชั่วโมงเลย จากเกือบสี่ทุ่ม-ห้าทุ่ม ที่บ้านหรือห้องแถวก็ยังไม่มีใครนอน คือกล้ามาก มันเอาดัมเบลแสนรักของเราไป
หลังจากนั่นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านเลขที่ 32 ม.16 บ้านโนนเจริญ ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบว่าบ้านที่เกิดเหตุหลังดังกล่าวได้เปิดเป็นร้านขายของชำ มีตู้เติมเงินอยู่หน้าร้านและเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอยู่ข้างรวมถึงห้องฟิตเนสส่วนตัว ที่อยู่หน้าร้าน
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านเผยให้เห็นว่าได้มีชายสวมเสื้อแขนยาวสีกรมกางเกงยีนส์ขายาวใส่รองเท้าแตะสีเหลืองสวมหมวกกันน๊อคสีขาว ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างสีแดงเข้ามาผ่านหน้าร้านเพื่อดูลาดราว แล้วได้ขับรถออกไป หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้เข็นรถซาเล้งผ่านหน้ากล้องไปจอดไว้ตรงศาลากลางบ้านก่อนจะเดินเข้ามาทางด้านข้างเข้ามานั่งข้างตู้เติมเงินบริเวณหน้าร้านนั่งอยู่นาน จึงลุกขึ้นไปบริเวณหลังห้องฟิตเนสและได้เข้าไปภายในห้องฟิตเนสอยู่นานจึงออกมาพร้อมกับอุกรณ์ที่ใช้ในการงัดแงะพร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกาย(ดัมเบล) 1 อัน ซึ่งมีมูลค่า 2,000 กว่าบาท แล้วเดินออกไป
หลังจากนั้นทางผู้เสียหายได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.วังตะเคียน กับ ร.ต.ท.วิโรจน์ เผือดจันทึก สว.สส.สภ.วังตะเคียน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าบริเวณหลังห้องฟิตเนสถูกคนร้ายคาดว่าน่าจะใช้อุปกรณ์เพื่อขันน๊อตที่ยึดแผ่นไม้ฝาเชอร่าที่ยึดกับโครงเหล็กที่อยู่ติดกับลูกบิดประตูออก แล้วใช้อุปกรณ์แทงแผ่นยิปซั่มเป็นรูเพื่อให้มือสามารถเข้าไปหมุนลูกปิดจากข้างในเพื่อเปิดประตู ภายในห้องฟิตเนสบริเวณลู่วิ่งคนร้ายได้ถอดปลั๊คออกและพยายามจะนำลู่วิ่งออกไปแต่ไม่สามารถนำออกไปได้ เนื่องจากลู่วิ่งนั้นมีขนาดใหญ่กว่าประตูและมีขนาดหนัก คนร้ายสามารถนำเพียงดัมเบลออกไปได้อย่างเดียว และบริเวณตู้เติมเงินคาดว่าคนร้ายนั้นก็พยายามที่จะงัดเช่นเดียวกันเพราะว่าคนร้ายได้ถอดปลั๊กตู้เติมเงินออกแต่ไม่สามารถที่จะงัดได้
จากการสอบถาม น.ส.วรนิพิฐ และน.ส.ณฐวรรณ ( ขอสงวนนามสกุล) 2 พี่น้อง กล่าวว่าคนร้ายได้เข้าช่วงกลางดึก มานั่งข้างตู้เติมเงินแล้วเขาก็ถอดปลั๊คน่าจะมีการขันน๊อตที่ตู้แล้วอาจจะขันได้เขาเลยไปส่องดูที่ห้องฟิตเนสเพื่อดูว่าข้างในมันมีอะไร หลังจากนั้นเขาก็ได้วนไปดูที่ด้านหลังเพื่อหาช่องทางที่งัดเข้าไปในห้องเข้าใช้ไขควงงัดอยู่นาน หลังจากที่เข้าไปในห้องได้แล้วนานกว่าเขาจะออก ตนคิดว่าเขาน่าจะพยายามที่จะเอาลู่วิ่งไปเพราะมีการถอดปลั๊กออกแต่ก็เอาไปไม่ได้ จึงเอาดัมเบลราคาประมาณ 2,000 บาทและรองเท้าผ้าใบ 2 คู่ คู่ละ 2,000 บาทไปแทน ระหว่างที่เกิดเหตุนั้นตนทำเค้กอยู่หลังบ้านช่วงนั้นก็ยังไม่มีใครนอนแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงมันเสียงเบามาก ส่วนตนนั้นในตอนนี้กลัวในเรื่องความปลอดภัยมากกว่า และอยากให้จับได้จะได้ไม่เป็นภัยกับบ้านอื่นๆที่เขากำลังจะเข้าไปก่อเหตุ
จากการสอบถาม นายอภิชาติ สารี อายุ 22 ผู้ที่เห็นรูปร่างคนร้ายรายนี้ กล่าวว่า ช่วงเวลาเกือบ 5 ทุ่ม ของคืนวันที่ 28 ม.ค.65 ตอนนั้นตนพึ่งกลับมาถึงห้องกำลังจะไปเติมเงินที่ตู้เติมเงินหน้าร้าน ตนเห็นว่าผู้ที่ก่อเหตุนั้นนั่งอยู่บริเวณหลังประตูหลังห้องฟิตเนสที่ถูกงัด ตนจึงได้มาเติมเินแต่เติมไม่ได้เพราะตู้มันปิด ตนจึงได้สอบถามชายคนดังกล่าวว่ามาจากไหน ชายคนดังกล่าวบอกว่าเขาหลบหนีตำรวจ เข้าได้ขับซาเล้งไม่มีเฟรมรถมาจอดอยู่แถวๆหน้าห้องตน รูปประพันสันฐานเป็นชายสูงประมาณ 170 กว่า ไม่ผอมมากหุ่นท้วมผิวสีแทนวัยประมาณกลางคน ตนก็ไม่ได้คิดอะไรมากนึกว่าเขามาหลบตำรวจ
ทางด้านสองพี่น้องนั้นหลังจากนี้เป็นห่วงในเรื่องของความไม่ปลอดภัยของตนเองกลัวว่าคนร้ายจะมาก่อเหตุซ้ำอีก และกลัวว่าจะเหมือนปีที่ผ่านมา เคยที่มีชายบุกเข้ามาถึงหลังร้านในสภาพเปลือยกาย และเคยแจ้งความไว้แล้ว หลังจากนั้นทราบว่าชายที่เปลือยกายบุกเข้ามาหาตนนั้นเป็นผู้ป่วยจิตเวช แต่อย่างไรตนก็กลัวถึงแม้ว่าตนนั้นจะยิงปืนแม่นก็ตาม
เบื้องต้นจากการตรวจสอบและสังเกตรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นแบบซาเล้งนั้น เหมื่อนเคยนำไปก่อคดีงัดตู้เติมเงินที่ตลาดบ้านโคกอุคมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ข่าวภาพ สายชล หนูแดง ทัตธน เหล่าหล้า /ปราจีนบุรี