ตำรวจภูธรภาค 5 โชว์ผลงานการบูรณาการสกัดกั้นจับกุม ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดตามแนวชายแดน ยึดยาบ้ากว่า 8 ล้านเม็ดเครือข่าย”นายป้อลี แซ่มัว”นักค้ายาเสพติดแนวชายแดน สั่งการยึดทรัพย์ ขยายผลจับกุมอย่างเด็ดขาด
เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 09.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยการ อำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ปปส.ภ.5 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดป้อลี้ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในภาคเหนือ และการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ดังนี้
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2565 เวลาประมาณ 22.40 น.จนท.ชุดตรวจยึดได้ร่วมกันทำการตั้งจุดตรวจที่บริเวณ จุดตรวจขุนตาล ถนนเชียงของ–เทิง ได้มีรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่มาตามเส้นทาง เชียงของ-เทิง ก่อนจะถึงจุดตรวจประมาณ 100 เมตร รถยนต์คันดังกล่าวได้หยุดรถกระทันหัน จากนั้นผู้ขับขี่ได้เปิดประตูรถแล้ววิ่งหลบหนีขึ้นไปทางเนินเขา จนท.ชุดตรวจยึดจึงร่วมกันเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเป็นรถยนต์กระบะบรรทุกตอนเดียวมีการดัดแปลงโครงหลังคาเป็นเหล็กทึบทุกด้านมีประตูเปิดปิดด้านท้าย ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนท์เทา ทะเบียน บย 7762 กำแพงเพชร เมื่อตรวจสอบภายในกระบะท้ายพบกระสอบสีฟ้า ตรากระรอก บรรจุอยู่ในตู้ขนส่งสินค้าและมีกล่องผลไม้สีแดงบรรจุผลแอปเปิ้ล วางทับปกปิดไว้ จนท.ชุดตรวจยึด ต่อมาจึงนำรถยนต์ดังกล่าว มาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.ขุนตาล จว.เชียงราย แล้วได้ประสาน พฐ.จว.เชียงราย มาทำการตรวจพิสูจน์ เมื่อตรวจพิสูจน์แล้ว พบว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในกระสอบสีรุ้งห่อหุ้มด้วยกระสอบสีฟ้า ตรากระรอก จานวน 40 กระสอบ กระสอบละ 200,000 เม็ด รวมทั้งสิ้นประมาณ 8,000,000 เม็ด จึงได้ตรวจยึดของกลางดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุนตาล จว.เชียงราย เพื่อสืบสวนสอบสวนขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2565 เวลา 07.30 น.จนท.ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับฯ ว่าจะมีการส่งมอบ ยาเสพติดรายสำคัญ จนท.ชุดจับกุม จึงทำการซ้อนแผนสวมรอยเป็นคนมารับของตามที่สายลับได้นัดแนะกันไว้ บริเวณ ถนนสายบ้านดงสุวรรณ–บ้านธรรมจาริก หมู่ที่ 5 ต.สันทราย อ.แม่จัน จว.เชียงราย เมื่อไปถึง พบกับนายสินฯ (ทราบชื่อภายหลัง) ขับขี่ จยย.เวฟ สีดา-แดง ทะเบียน 1 กร – 1497 เชียงราย จอดรออยู่ริมทาง และขับขี่ จยย.นำหน้ารถยนต์ของ จนท.ชุดจับกุม ไปจนถึงที่เกิดเหตุ นายสินฯ ได้จอดรถและลงจากรถ ไปยกกระสอบคละสีที่ซุกซ่อนอยู่ข้างทาง ใส่ที่หลังกระบะรถยนต์ของ จนท.ชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวเป็น จนท.ตำรวจและเข้าควบคุมตัวทราบชื่อ คือ นายทรงสินทธิ์ เฌอมือ ภูมิลำเนา ต.แม่ยาว อ.เมือง จว.เชียงราย รับว่าภายในกระสอบดังกล่าวมีไอซ์บรรจุอยู่ และยังมีกระสอบซุกซ่อนอยู่ที่โพรงหญ้าอีกจำนวน 5 กระสอบ จนท.ชุดจับกุม จึงได้ตรวจสอบพบเป็นกระสอบบรรจุไอซ์ ทั้งหมดจำนวน 7 กระสอบ น้ำหนักรวม ประมาณ 100 กก. เมื่อมีหลักฐานพอสมควร จนท.ชุดจับกุม จึงได้จับกุมตัวนายสินฯ และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่านายสินฯ เป็นบุคคลตามหมายจับยาเสพติดของศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 10/2565 ลงวันที่ 19 ม.ค.65 ท้องที่ สภ.แม่ลาว จว.เชียงราย จึงจับกุมเพิ่มข้อหาจับตามหมายจับอีกคดีหนึ่ง ขณะนี้ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 05.30 น. จากการสืบทราบของ จนท.ชุดจับกุมว่าจะมีกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางขึ้นมาลาเลียงยาเสพติดในพื้นที่ จว.เชียงราย โดยเข้ามาพักที่โรงแรม พิมานอินน์ จึงได้จัดกำลังดักซุ่มอยู่บริเวณลานจอดรถโรงแรมพิมานอินน์ ได้สังเกตเห็นชาย จำนวน 2 คน เดินออกจากห้องพัก มายังรถยนต์กระบะ ตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 3 ฒฎ 1344 กรุงเทพมหานคร โดยชายทั้งสองคนช่วยกันยกถุงพลาสติก สีดำ มีสิ่งของอยู่ภายใน ใส่ในตู้ทึบ กระบะท้ายรถยนต์คันดังกล่าว ดังนั้น จนท.ชุดจับกุมที่ดักซุ่มดูอยู่ จึงได้เข้าแสดงตัวจับกุมและทำการตรวจค้นชายทั้ง 2 คน ผลการตรวจค้นพบถุงพลาสติก สีดา มีสิ่งของอยู่ภายใน วางอยู่ในตู้ทึบ กระบะท้ายรถของรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ทำการเปิดถุงพลาสติกออกทำการตรวจสอบ พบว่าภายในถุงพลาสติก สีดำ ดังกล่าว มียาบ้า ซุกซ่อนอยู่ จำนวน 100 มัด แต่ละมัดมียาบ้า ประมาณ 2,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 200,000 เม็ด จึงได้ทาการตรวจยึดยาบ้าดังกล่าวไว้เป็นของกลางและได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้กล่าวว่า การจับกุมยาบ้ากว่า 8 ล้านเม็ดนั้น เป็นเครือข่ายของ นายป้อลี แซ่มัว นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่มีเครือข่ายโยงใยในเขตภาคเหนือตอนบนตลอดจนประเทศเพื่อนบ้าน การจับกุมเฉพาะเครือข่ายของนายป้อลี้ฯ ตำรวจภูธรภาค 5 สามารถจับกุมกว่า 10 ครั้ง ยึดยาบ้ารวมกว่า 40 ล้านเม็ด ส่วนการจับกุมในภาพรวมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นมานั้น ตำรวจภูธรภาค 5 สามารถจับกุมยาบ้าได้รวมกว่า 80 ล้านเม็ด
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ปิยะฯ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกในกรณีของหมายจับคดียาเสพติดของ สภ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ในคดีที่กลุ่มผู้ต้องหาได้ต่อสู้ขัดขวางและใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตเมื่อปลายปี 2564 นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับไปจำนวน 8 หมาย มีการจับกุมตามหมายจับแล้ว 1 หมายจับ คงค้างอีก 7 หมาย โดยหมายจับดังกล่าว มีรางวัลนำจับหมายละ 200,000 บาท หากมีผู้ใดแจ้งเบาะแสจนสามารถนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ และ พล.ต.ท.ปิยะฯ ได้แจ้งเตือนผู้ประกอบการรับจ้างขนส่งสินค้าด้วยความเป็นห่วง ในกรณีที่มีผู้ว่าจ้างให้ขนสินค้าไม่ว่าจะเป็นพืชผลทางการเกษตรหรือสิ่งของจากพื้นที่แนวชายแดน เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ตอนในของประเทศ ให้ระมัดระวังและตรวจสอบสินค้าที่ตนเองรับจ้างขนส่ง หากเกิดความสงสัยว่าสินค้าที่รับมาจะเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย ผู้ขนส่งสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที หรือแจ้งมายังสายด่วน ยาเสพติด 1599, สายด่วน 191, line@inthanon1(ผบช.ภ.5) และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม. ในการดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ในความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม.