ประจวบฯ ร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ วิถีใหม่ไร้ขยะ

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวโครงการพระราชดำริ เชิงสร้างสรรค์ วิถีใหม่ ไร้ขยะ ภายใต้โครงการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริและกิจการพิเศษของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่วนอุทยานเขาตาม่องล่าย ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบฯ โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นการสนับสนุนการปรับเปลี่ยนวิธีจัดการขยะ ส่งเสริมประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่ทิ้งสิ่งที่ไม่ใช่ขยะลงในถังขยะ และบริหารจัดการขยะนำไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ

โดยแบ่งประเภทขยะตามเทคโนโลยีในการกำจัดออกเป็น 3 ประเภท คือ ใช้ไม่ได้ เป็นพิษและติดเชื้อ โดยประสานความร่วมมือโครงการพระราชดำริในความรับผิดชอบของหน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจำนวน 12 โครงการ อุทยานแห่งชาติจำนวน 5 แห่ง อุทยานแห่งชาติ (เตรียมการ) จำนวน 1 แห่ง และวนอุทยาน 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับโรงเรียนอนุบาลทับสะแก เป็นหน่วยงานตั้งจุดรับบริจาควัสดุเชื้อเพลิง วัสดุรีไซเคิล ที่สามารถนำไปเผาได้  โดยนำไปใช้แทนเชื้อเพลิงทดแทนถ่านหินในเตาเผาปูนซีเมนต์ เช่น ซองบะหมี่/ซองเครื่องปรุง ซองขนม ถุงฟอยด์ ซองกาแฟ แก้วกาแฟพลาสติก ถุงยืด ถุงไม่ยืด กล่องข้าวพลาสติกจากร้านสะดวกซื้อถุงนมโรงเรียน กล่องนม กล่องเครื่องดื่มยูเอชที เพื่อลดขยะที่ต้องนำไปฝังกลบในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พร้อมกันนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯได้มอบป้ายจุดรับบริจาควัสดุเชื้อเพลิง และป้ายประชาสัมพันธ์การบริหารจัดการขยะตามแนวทางชุมชนไร้ถัง ให้แก่หน่วยงานรับผิดชอบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในความรับผิดชอบของหน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อุทยานแห่งชาติ และวนอุทยาน ในพื้นที่จังหวัดประจวบฯ และรับมอบวัสดุเชื้อเพลิงจากผู้เข้าร่วมงาน เพื่อส่งมอบให้กับโรงเรียนอนุบาลทับสะแก เพื่อร่วมลดปริมาณขยะ ผ่านแอปพลิเคชั่น “คุ้มค่า” (KoomKah) ส่งเสริม Circular Economy โดยนำคะแนนที่ได้จากการฝากวัสดุเชื้อเพลิงมาแลกผลิตภัณฑ์ใช้งานใหม่/งบประมาณ สนับสนุนโครงการต้นกล้าไร้ถังอีกด้วย

ปัจจุบัน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกประกาศ เรื่อง ห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟม และบรรจุภัณฑ์พลาสติก ชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single – use plastics) เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เพื่อสงวน อนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ป้องกันไม่ให้เกิด ความเสียหายต่อปะการัง ระบบนิเวศ และเป็นการลดขยะในอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2565 เป็นต้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มีโทษปรับสูงสุด 100,000 บาท.

อุดมศักดิ์ นิ่มเซียน.ประจวบฯ


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า