ทลายพนันออนไลน์ ชายแดนแม่สายเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้าน

เจ้าหน้าที่สำนักนายก ร่วมกับ ตำรวจแม่สาย ทลายเว็ปพนันออนไลน์ชายแดนไทย – เมียนมา เงินหมุนเวียน กว่า 20 ล้านบาท นอกจากนี้พบในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา มีเงินหมุนเวียนนับ 100 ล้าน หากขยายผลได้คาดว่าจะมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 1,000 ล้านบาท

วันที่ 20 ก.ค.65 นายสมหมาย เอี่ยมสอาด  ข้าราชการประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.ต.ท. เกีรติศักดิ์ จิตรประสาน รอง ผกก สส.สภ.แม่สาย จ.เชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหมายศาลแขวง จ.เชียงราย เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเครือข่ายเว็ปไซด์พนันออนไลน์ 4 จุด ในพื้นที่  ต.แม่สาย และ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ซึ่งติดกับลำน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา  โดยที่ หมู่ 10 ต.เวียงพางคำ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คนเป็นชายอายุ 29 ปีและหญิงอายุ 26 ปี จุดที่ 2   เข้าค้นบ้านพื้นที่หมู่ 9 ต.แม่สาย สามารถจับกุมตัวหญิงสาวอายุ 21 ปี ได้ 1 คน โดยเจ้าหน้าที่พบว่าทั้ง 2 รายมีการใช้เว็ปไซต์เพื่อเปิดให้คนเข้าไปเล่นการพนันและพบของกลางเป็นจำนวนมาก จุดที่ 3 และ 4  เข้าตรวจค้นในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ พบหญิงสาวอายุ 26 ปี และ 52 ปี แต่ไม่พบการกระทำความผิดจึงไม่มีการดำเนินคดี

โดยเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาข้างต้นจำนวน 3 คนดังกล่าว ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์โดยผิดกฎหมาย ชักชวนโฆษณาให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันเอาทรัพย์กันโดยผิดกฎหมาย” พร้อมยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์จำนวน 7 เครื่อง โทรศัพท์จำนวน 5 เครื่อง ซิมการ์ด 274 อัน ไอแพด 1 เครื่อง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจสอบพบมีเงินหมุนเวียนในเครือข่ายธุรกิจพนันออนไลน์กลุ่มนี้ประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าขบวนการเหล่านี้มีการติดตั้งจานดาวเทียมเพื่อส่งสัญญานอินเตอร์เน็ตหรือต่อสายไฟเบอร์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเพื่อใช้สำหรับเผยแพร่เว็ปไซต์ชักชวนให้คนเข้าเล่นการพนันออนไลน์

นายสมหมาย กล่าวว่าหลังจากนี้ก็จะได้กำชับแต่ละพื้นที่ชายแดนทั่วไปที่อาจจะมีการกระทำในลักษณะเดียวกันทั้งชายแดนไทย-เมียนมา ชายแดนลุ่มแม่นาโขง ชายแดนไทย-กัมพูชา  เพราะมักมีลักษณะเปิดให้เล่นการพนันเช่นเดียวกันโดยเฉพาะการพนันทายผลฟุตบอลที่มีคนไทยและต่างชาติร่วมมือกันเปิดเป็นสำนักงานตามตะเข็บชายแดน  ที่ผ่านมากรณีชายแดนด้านประเทศกัมพูชาตรวจพบวงเงินมีมากนับ 100 ล้านบาท จึงต้องเร่งดำเนินการคาดว่าจะขยายผลเป็นวงเงินนับ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศ โดยการปฏิบัติการนับจากนี้ไม่จำเป็นต้องจับในรายใหญ่ๆ แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับรายเล็กๆ เพื่อป้องกันการขยายผลเป็นรายใหญ่เช่นนี้ต่อไป


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า