ส.ส.ประจวบฯ เขต 3 นำ กมธ.แก้ปัญหาปากคลองตื้นเขินกระทบรายได้เรือประมงพื้นบ้าน 3 อำเภอกว่าพันลำ
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนางสาวธนภร โสมทองแดง ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมาธิการฯ (ประธานอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะริมตลิ่งการตื้นเขินของแม่น้ำและลำคลอง) นำคณะอนุกรรมาธิการฯลงพื้นที่ศึกษาสภาพปัญหาและรับฟังความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะริมตลิ่ง การตื้นเขินของแม่น้ำ ลำคลอง และน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ 3 อำเภอตอนล่างของ จ.ประจวบฯ ได้แก่ อำเภอทับสะแก อำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย โดยมี ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้นำท้องถิ่น ร่วมรับฟังนำเสนอข้อมูล
นายประมวล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หลังจากได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเรือประมงพื้นบ้านว่าเมื่อถึงหน้ามรสุมปากคลองจะมีทรายพัดเข้ามาจำนวนมากจนเป็นที่งอกขนาดใหญ่และยังทำให้คลองตื้นเขิน เป็นอุปสรรคและกีดขวางในการเข้า-ออกของเรือประมงพื้นบ้านมากกว่า 1,000 ลำในพื้นที่ 3 อำเภอ ส่งผลกระทบกับรายได้ของกลุ่มผู้ประกอบการเรือประมง จึงขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหาในระยะยาวในพื้นที่ หมู่ 7 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก พื้นที่คลองกรูด เขตเทศบาลตำบลบ้านกรูด ปากคลองบางสะพานหมู่ 4 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน ปากคลองใกล้วัดท่าม่วง เขตเทศบาลบางสะพานน้อย และที่มัสยิดหมู่ 5 ต.ปากแพรก อ.บางสะพานน้อย เนื่องจากปากคลองตื้นเขินเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำในหน้ามรสุม ทำให้ชาวประมงเรืองเล็กได้รับความเดือดร้อนจากทรายทะเลที่พัดปิดปากคลองนานหลายเดือน ประกอบกับเมื่อถึงฤดูแล้งในพื้นที่ไม่มีพื้นที่กักเก็บน้ำไว้ให้พี่น้องเกษตรกรไว้ใช้ในการทำการเกษตร
โดยอนุกรรมาธิการฯได้ทำการเก็บข้อมูลทั้งจากการรายงานของรองผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อมูลที่ได้จากการลงไปสำรวจในพื้นที่ต่างๆเพื่อนำมารวบรวมสภาพปัญหาซึ่งแต่ละที่พบว่าจะมีปัญหาที่แตกต่างกัน ในเบื้องต้นได้ประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่และจะนำเสนอข้อมูลปัญหาที่พบต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขต่อไป.
อุดมศักดิ์ นิ่มเซียน.ประจวบฯ
