ไฟไหม้โรงเก็บฟางอัดก้อนกว่า 3,000 ก้อนวอด สูญเงินเกือบแสน

ชาวนาวัย 53 ปี ระทม มองดูไฟไหม้ ฟางข้าว  3,000 ก้อน ในโรงเก็บฟางของตนเอง จนวอด หลังเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ อัดฟางไว้หวังเอาไว้ขายเก็บทำทุนใช้จ่ายในครอบครัว สูญเงินเกือบแสนในพริบตา เผยเหมือนโดนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด 2 ปีซ้อน เนื่องจากปีก่อนก็เกิดพายุพัดหลังคาโรงเก็บฟางปลิวเสียหายทั้งหลัง ฟางข้าวก็เสียหายไปเยอะ มาปีนี้หนักยิ่งกว่า ไฟไหม้ฟางข้าวที่เก็บไว้จนไม่เหลือซาก

วันที่ 08 ม.ค. 2565 เวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เทศบาลชุมเห็ด รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านโกรกขี้หนูใหม่ ม.20 ต.ชุมเห็ด ว่าเกิดเหตุไฟไหม้อย่างรุนแรง ที่โรงเก็บฟางข้าว ของชาวบ้าน บริเวณท้ายหมู่บ้าน จึงประสานรถดับเพลิงใกล้เคียง เร่งสนับสนุนที่เกิดเหตุ

เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปถึงที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังโหมลุกไหม้โรงเก็บฟางอย่างรุนแรง รถน้ำประมาณ 5 คันที่มาสนับสนุน ระดมฉีดน้ำสกัดเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านเรือนชาวบ้านพื้นที่ใกล้เคียง  ทราบต่อมาเจ้าของโรงเก็บฟาง คือ นาย ยุทธชัย แมนไธสง อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 185 หมู่ที่ 20 บ้านโกรกขี้หนูใหม่ ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กำลังยืนมองไฟไหม้โรงเก็บฟางของตนเอง ด้วยความเสียดาย และเสียใจ  เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถจะใช้น้ำดับเพลิงได้ทันที เนื่องจากฟางอัด มีจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอดเวลาเนื่องจากกองฟางนั้นยังมีไฟปะทุอยู่ด้านล่าง ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. เพลิงจึงสงบ

เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบความเสียหายทั้งโรงเก็บฟาง และฟางอัดก้อนถูกไฟไหม้วอดทั้งหมด ไม่มีบ้านเรือนใกล้เคียงเสียหาย มีเพียงกระบะเทรลเลอร์ที่ใช้ขนฟางมาเก็บในโรงเก็บฟาง ถูกไฟไหม้เสียหายไปด้วย 1 คัน ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดไฟไหม้ได้อย่างไร เนื่องจากไม่มีคนอยู่เฝ้าที่โรงเก็บฟาง

สอบถาม นาย ยุทธชัย เล่าว่า โรงเก็บฟางนี้ตั้งอยู่ที่ดินของตนเอง ห่างจากบ้านที่อยู่ประมาณ 500 เมตร หลังเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ตนได้อัดฟางก้อนไว้ที่ทุ่งนา พึ่งทยอยขนฟางที่อัดเป็นก้อนไว้ มาเก็บในโรงเก็บฟางแห่งนี้เสร็จก็กลับไปอยู่บ้าน ตอนเกิดเหตุมีชาวบ้านใกล้เคียงโทรมาแจ้งว่าไฟไหม้โรงเก็บฟาง จึงรีบมาดู ก็แทบจะล้มทั้งยืน ไฟโหมลุกไหม้ฟางอัดก้อน ซึ่งมีกว่า 3,000 ก้อน เป็นมูลคาเกือบแสน เพราะตอนนี้ฟางอัดก้อน ขาย 3 ก้อน 100 บาท ที่ตนเองเก็บไว้ หวังจะเก็บเอาไว้ขาย เพื่อทำทุนใช้จ่ายในครอบครัว หลังจากปีนี้ได้ผลผลิตข้าวเปลือกน้อย แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุไฟไหม้จนไม่เหลือแบบนี้ ตนเองรู้สึกเสียดายและเสียใจ เหมือนเหมือนโดนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด 2 ปีซ้อน ปีก่อนก็เกิดพายุพัดหลังคาโรงเก็บฟางปลิวทั้งหลัง ฝนตกใส่ฟางข้าวที่เก็บไว้จนทำให้ฟางเสียหายไปเยอะ พึ่งสร้างโรงเก็บฟางใหม่ มาปีนี้หนักยิ่งกว่า ไฟไหม้ฟางข้าวที่อัดเก็บไว้หวังเอาไว้ขาย จนไม่เหลือ

ด้าน น.ส. วรัทยา ชำนาญรัมย์ รองนายกเทศมนตรีเมืองชุมเห็ดพร้อมคณะ เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ และได้ให้กำลังใจชาวนาเจ้าของโรงเก็บฟาง และได้ฝากเตือน เกษตรกร ทั้งที่ทำนา และทำไร่อ้อยว่า ช่วงนี้หน้าแล้ง ลมแรง โดนไฟนิดเดียวก็เกิดลุกลามได้ง่าย และก็เกิดอันตรายกับบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง อยากให้ระมัดระวัง ช่วยเป็นหูเป็นตา ในเรื่องการจุดไฟ หรือทำให้เกิดประกายไฟต่างๆ รวมถึงการเผาตอฟางข้าว และลุกลาม เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา

วาทิตย์ ตั้ม แสนธุปี จ.บุรีรัมย์


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า