ชายวัย 44 ปี น้อยใจเมียมีชู้ ลาลูกถือปืนเข้าป่าหวังฆ่าตัวตาย

วันที่ 20 ธ.ค.64. จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.64.  เวลา 20.00 น. ศูนย์กู้ภัยสว่างสระบุรี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ  ให้มาตรวจสอบ  ว่าน่าจะมีคนยิงตัวตาย เพราะได้ยินเสียงปืนในป่าดัง 1 นัด  ข้างวัดเขาแก้ว หมู่ 4  ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี  เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจึงได้นำกำลัง พร้อมรถแสงสว่าง ไปร่วมกับชาวบ้าน 30-40 คน ที่กำลังชุลมุนวุ่นวาย จึงได้แยกกันออกค้นหา นาย สมฉาย วังสูงเนิน  อายุ 44 ปี  ภายในวัดที่มีพื้นที่กว้างและเป็นป่าทึบ และรอบๆวัดก็ยังเป็นป่าอีก  ใช้เวลาในการค้นหาร่วม 2 ชั่วโมง แต่ก็ไร้วี่แวว นาย คำพันธ์ วังสูงเนิน ผู้เป็นพ่อ จึงได้ขอยุติการค้นหา เนื่องจาก ดึกและเป็นที่มืด ไม่มีแสงสว่างเข้าไปถึงภายในป่าได้ จึงอยากให้มาค้นหาตอนเช้าต่ออีกครั้งหนึ่ง และได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างและชาวบ้านในละแวกนั้นที่ออกมาช่วยกันค้นหา

นาย คำพันธ์ วังสูงเนิน อายุ 76 ปี  ซึ่งเป็นพ่อ  เล่าว่า ลูกชายคือ นาย สมฉาย เป็นพนักงานเก็บขยะของอบต.แห่งหนึ่งใน ต.ปากข้าวสาร เมื่อช่วงเย็น มีอาการมึนเมา บอกลาลูกว่า ตัวเองจะไม่อยู่แล้ว จะไปยิงตัวตายในป่า และได้ถือปืนเดินเข้าป่าไป จนชาวบ้านได้ยินเสียงปืน 1 นัด ตนเองคิดว่าน่าจะเป็นลูกชายยิงตัวตาย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างให้มาช่วยค้นหาดังกล่าว แต่ก็ยังไม่พบ ส่วนสาเหตุ น่าจะมาจากการที่เมียไปมีชู้ ได้ประมาณร่วมเดือน จึงได้คิดมากและเกิดอาการเครียด มีอาการมึนเมา จึงได้ถือปืนเข้าไปเพื่อจะฆ่าตัวเองในป่า แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นลูกชายเลย

ต่อมาช่วงสายของวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ทราบว่า นาย สมฉาย วังสูงเนิน ได้กลับมาที่บ้านแล้วเมื่อช่วงกลางดึกของเมื่อคืนนี้ ยังมีชีวิตอยู่ไม่ได้ใช้ปืนยิงตัวตาย  จึงได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 107/1 หมู่ 4 ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี  หน้าวัดเขาแก้ว ได้พบกับ นาย คำพันธ์ วังสูงเนิน (ผู้เป็นพ่อ) พร้อมกับ  นาย สมฉาย วังสูงเนิน  ได้อยู่บ้านพอดี จึงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้สื่อข่าวฟัง ว่า ตนเองน้อยใจเรื่องที่เมียมีชู้ จึงสั่งลาลูกว่า ถ้าพ่อไม่อยู่ ก็ดูแลกันเอง  เพราะน้อยใจ จึงได้สั่งลูกไว้ว่าจะไปฆ่าตัวตาย ไม่ได้เขียนจดหมายไว้ เมียตนเองได้มีชู้มาเกือบเดือนแล้ว มีชู้อยู่หน้าวัดเขาแก้วอยู่ใกล้กัน มันบาดหนูบาดตาตนเอง ช่วงนั้นตนเมานิดหน่อย แล้วตนก็เดินเข้าป่าไป แต่ที่คิดว่าตนเป็นคนยิงปืน จริงๆแล้วไม่ได้ยิง ตนเดินไปถึงเขื่อนแล้ว ก็ได้ยินเสียงปืนดังเหมือนกัน ตนก็เดินเข้าป่าไปต่อ เพื่อระบายอารมณ์ อยู่ในป่าถึงเวลาเที่ยงคืน ตนก็กลับมาบ้าน พ่อก็ได้มาบอกตนว่า มีคนตามหาตนเยอะ 40-50 คน  ตนตกใจ เพราะเขาเป็นห่วง อยากขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างและชาวบ้านที่ช่วยออกตามหาตน ต่อไปนี้ตนไม่คิดจะฆ่าตัวตายแล้ว อยู่กับลูกดีกว่า และจะไปฟ้องหย่ากับเมีย ตนมีลูกทั้งหมด 4 คน  เป็นผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 2 คน  คนโตเป็นผู้หญิงมีครอบครัวแล้ว  คนที่สองเป็นผู้ชาย ก็มีครอบครัวไปแล้วเหมือนกัน ส่วนอีก 2 คนยังเล็ก ตนเลี้ยงอยู่  เมียอยู่ใกล้ๆก็ไม่เคยมาดูลูกเลย อยู่กับแฟนใหม่ ตนบอกให้มาหาลูกบ้าง เขาก็ไม่มาเพราะแฟนใหม่ไม่ให้มา ส่วนแฟนใหม่เขาเคยมากินนอนอยู่บ้านของตน มากินนอนแล้วทำกับผมแบบนี้ เหมือนมาตีท้ายครัว ตนเสียใจมาก เพราะแฟนใหม่เขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของตน เสียใจมากที่เขามาทำแบบนี้ ส่วนเมียของตนก็ยังไม่ทราบ ว่าทำไมเขาทำแบบนี้ และตนก็ไม่เคยถามด้วย เพียงแต่บอกตนว่า ไม่ต้องระแวงหลอกเรื่องผู้ชาย เพราะว่าเขาไม่เคยมี พูดให้เราตายใจ  หลังๆตนสังเกตว่า ผิดปกติ แต่ก็ไม่พูด มีชาวบ้านมาพูดให้ฟัง ตนก็ไม่เชื่อ นอกจากจะเห็นกับตาตัวเอง ตนเห็นเดินออกมาจากบ้าน จึงได้เดินย้อนกลับไป ก็เห็นแฟนรีบวิ่งออกมาหน้าบ้านและแกล้งกดเล่นโทรศัพท์  ตนได้ถามว่า ไปไหนมา เขาก็บอกว่า ไม่ได้ไปไหนหลอก  เรื่องเกิดที่บ้านของตน  แต่ไม่เห็นผู้ชาย เห็นแค่เมียของตนวิ่งออกมา แต่ตนก็ไม่ได้เข้าไปดูว่ามีผู้ชายอยู่ข้างในหรือเปล่า ส่วนลูกได้ไปหาแม่เขาบ้าง ไปบอกให้แม่กลับบ้าน แต่แม่ก็ไม่กลับ ให้กลับมาอยู่เหมือนเดิม ตนรับได้ แต่ยังไงเขาก็ไม่กลับ และไม่ให้พวกลูกเข้าไปยุ่งวิ่งวายกับเขาเลย พอลูกไปก็ไล่ลูกกลับ สุดท้ายนี้ตนขอขอบคุณชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างที่มาตามหาตนเอง


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า