โจรงัดบ้านหยิบแค่สร้อยข้อมือทองหนัก 3 บาท ทั้งที่วางรวมเส้นอื่นหนักร่วม 10 บาท แต่หยิบเส้นเดียว

วันที่ 7 มกราคม 65 ร.ต.อ.ภูนพ เรืองยิ่ง ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 76 ม.9 ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง หลังได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายงัดแงะเข้าไปขโมยของมีค่าภายในบ้าน ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีนางชีพ จันทร์แก้ว อายุ 48 ปี (ผู้แจ้ง) ได้พาเจ้าหน้าที่ไปชี้ตรงหน้าต่างห้องที่เปิดอยู่ สังเกตุตรงขอบหน้าต่างมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย คล้ายรอยงัด พร้อมบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ปกติหน้าต่างบานนี้ตนไม่เคยเปิด จะปิดล็อคกลอนทั้งบนและล่างไว้ตลอด  และเมื่อช่วง 14.00 น. ตนกลับจากทำธุระข้างนอกเมื่อมาถึงบ้าน ซึ่งมีลูกสาววัย 19 ปีและหลานยังเล็กนั่งกันอยู่หน้าบ้าน ตนก็เข้าไปในห้องและถอดสร้อยมือหนัก 3 บาท สร้อยคอ หนัก 3 บาท แหวนหนัก 2 สลึง จำนวน2วงและต่างหูทองคำตั้งกองรวมกันไว้บนโต๊ะและเปลี่ยนผ้าจะอาบเพื่อจะไปงานกับสามี แต่ช่วงที่กำลังเดินอยู่หลังบ้าน ลูกสาววัย 19 ปีก็ได้ตะโกนเรียกให้มาหน้าบ้าน และถามว่า “แม่ได้เปิดหน้าต่างห้องไว้หรือเปล่า” ตนก็ตอบไปว่าไม่ได้เปิดไว้ จากนั้นก็รีบเดินไปดูตรงหน้าต่าง และรีบเข้าไปดูข้าวของภายในห้อง ก็พบว่ามีสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาทที่ถอดกองรวมไว้กับสร้อยคอและแหวนได้หายไปเพียงอย่างเดียว ตนได้สอบถามลูกสาวแล้วว่าได้หยิบไปหรือเปล่า แต่ลูกสาวก็ปฏิเสธ ตนจึงโทรหาสามีให้เข้ามาที่บ้านก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว

ทางด้านนางชีพ ฯ ได้เล่าว่าเมื่อประมาน 2 ปีที่ผ่านมา ตนเคยเก็บเงินไว้ในลิ้นชักในห้องเดียวกัน โดยนับและมัดแยกไว้เป็นพับๆ รวมเป็นเงินประมานหนึ่งแสนบาท แต่หายไปแค่ 2 หมื่นบาท ซึ่งครั้งนี้ก็มีลักษณะคล้ายกันเพราะว่า โจรไม่ได้ขโมยเงินไปทั้งหมดเหมือนกับที่เลือกขโมยแค่สร้อยข้อมือ ส่วนแหวน สร้อยคอ และต่างหูยังวางอยู่เหมือนเดิม ตนรู้สึกว่าการกระทำของโจรเป็นการกระทำที่อุกอาจเพราะก่อเหตุตอนที่ตนก็อยู่ภายในบ้าน และแปลกพิศดารมากที่ไม่เอาสร้อยไปทั้งหมด

ทางด้านน้องยุ้ย วัย 19 ปี ลูกสาวของนางชีพ ฯ ได้เล่าว่าขณะที่ตนนั่งเลี้ยงหลานอยู่หน้าบ้าน ก็ได้เดินเอาผ้าของแฟนจะไปซักในกะละมังข้างบ้าน ก็สังเกตุเห็นว่าหน้าต่างห้องเปิดอยู่ จึงตะโกนเรียกแม่ที่อยู่ในบ้านและถามว่าแม่ได้เปิดหน้าต่างไว้หรือเปล่า และเมื่อแม่บอกว่าไม่ได้เป็นคนเปิด น้องยุ้ยก็บอกให้เข้าไปดูในห้องว่ามีสิ่งของมีค่าอะไรหายไปบ้าง จากนั้นก็พบว่าสร้อยข้อมือของแม่ได้หายไป จึงบอกให้แม่หาดูให้ทั่วแต่ก็ไม่พบ จากนั้นแม่จึงโทรแจ้งตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นางชีพฯ เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองพัทลุง เพื่อจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาร่องรอยหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อหาตัวโจรใจดีรายนี้ต่อไป


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า