สามีน้อยใจภรรยาไม่กลับบ้าน 3 วัน ผูกคอดับทิ้งจดหมายขอโทษบอกรักครั้งสุดท้าย

วันที่ 7 ม.ค.2565 เมื่อเวลา 09.49 น.ศูนยืวิทยุกู้ภัยสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากนางเอื้องพร งามชมวงค์ ว่ามีคนผูกคอเสียชีวิตที่ห้องพักเลขที่ 381 ม.21 ต.ท่าส่วาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง ร.ต.ท.กุลวัฒน์  ภิรมย์ไกลภักดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์  แพทย์เวร นิติเวช รพ.สุรินทร์ พร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ รุดออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดียวชั้นเดี่ยว ในบ้านส่วนของห้องนอนพบร่างนายอนุรักษ์ สุขทวี อายุ 33 ปี บ้านพักเลขที่ 381 ม.21 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ อยู่ในสภาพใช้สายแจ๊คต่อลำโพงผูกคอตัวเองกับเหล็กดัดที่หน้าต่างห้องนอนของบ้านพักดังกล่าว เสียชีวิตในลักษณะนั่งขาเหยียดกับพื้นพิงกำแพงบ้านภายในห้องนอน โดยมีสายแจ๊คต่อลำโพงผูกเข้ากับเหล็กดัดหน้าต่างห้องนอน สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ สวมเสื้อกีฬาแขนสั้นสีส้ม คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5ชั่วโมง เนื่องจากตัวแข็งแล้ว ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด มีเพียงจดหมายลาตายที่เขียนด้วยลายมือวางไว้บริเวณห้องรับแขก 1 แผ่น โดยมีข้อความว่า “ขอโทษ รักสุดๆ” พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องเท่านั้น  ซึ่งจดหมายที่พบคาดว่าผู้ตายน่าจะเขียนเอาไว้ก่อนจะตัดสินใจผูกคอลาโลก โดยเนื้อหาในจดหมายเขียนว่า “ขอโทษ รักสุดๆ”

ขณะเดียวกัน น.ส.เกตศราพร งามชมวงค์  อายุ 28 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตก็ร้องไห้เสียใจตลอดเวลาหลังจากเห็นสามีตัวเองผูกคอเสียชีวิต ทั้งเสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้สามีคิดสั้น โดย น.ส.เกตศราพร งามชมวงค์ เล่าว่า ก่อนนี้ตนได้มีปากเสียงกับสามี จากนั้นตนก็ขับรถยนต์เก๋งออกมาจากบ้านพร้อมกับปิดโทรศัพท์มือถือ หายจากบ้านมา 2วัน กระทั่งตอนเช้าวันนี้มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าสามีตนผูกคอเสียชีวิตในห้องนอนแล้ว ตนก็ตกใจและรีบรถยนต์กลับมาบ้าน พอเห็นร่างสามีก็แทบช็อกทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร้องไห้ไม่คิดว่าสามีจะคิดสั้นแบบนี้ โดยทางญาติที่เป็นป้าฝ่ายเมีย  กล่าวว่า ผู้ตายได้โทรศัพท์มาหาตนช่วงประมา 01.30 น. เมื่อคืนนี้ และพูดบอกว่าฝากดูแลลูกชายตนด้วยทั้ง 2 คน ผมได้โทรศัพท์หาเมียหลายครั้งแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้และได้ออกตามหาก็ไม่เจอ ยายฝากดูลูกด้วยเน้อ ตนก็บอกไปว่าเอ็งอย่างทำอะไรทำร้ายตัวเอง ค่อย ๆคุย ผมคุยแล้วเขาไม่คุย เอ็งอย่างทำอะไรบ้าๆนะ เพราะตนรู้ว่าผู้ตายเคยทำแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งช่วง2 ปีที่ผ่านมาแต่ฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ เพราะเมียมาเห็นก่อน

น.ส.ศินิตา มีแก้ว ญาติฝ่ายเมีย เล่าว่าตนรู้ว่าทั้งคู่มีปากเสียงกัน และเช้าวันนี้ผู้ตายก็ไม่ได้ออกไปช่วยขายของที่ตลาดเหมือนเคย จึงได้มาดูที่บ้านและได้ตะโกนเรียกผู้ตายแล้วแต่ไม่มีการขานรับ จึงเปิดประตูกระจกหน้าบ้านเข้าไป  พร้อมกับไปดูที่ห้องนอนได้เรียกไม่มีเสียงตอยประตูก็ล็อก ตนจึงส่องดูตรงช่องรอยต่อประตูก็เห็นคนตายนั่งนิ่งกับพื้นและมีสายโยงอยู่ที่คอ จึงได้วิ่งไปเรียกญาติอีกคนให้มาดู เมื่อญาติได้มาจึงใช้เท้าถีบที่ไปที่ประตูห้องนอนให้เปิดออก โดยคิดว่าน่าจะมีลมหายใจอยู่ แต่ร่างผู้เสียชีวิตได้แข็งแล้ว จึงได้รีบโทรศัพท์ตามญาติ ๆ ที่ขายของอยู่ที่ตลาดสดให้มาดูและได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ขณะที่นางเอื้องพร งามชมวงค์ ผู้เป็นแม่ยาย  ก็บอกว่า นายอนุรักษ์ สุขทวี(ผู้ตาย) ช่วยกันขายของในตลาดสด ลูกเขยและลูกสาวมีลูกด้วยกัน 2 คน ในวันเกิดเหตุทั้งสองคนได้มีปากเสียงกัน ทางลูกสาวตนได้ขับรถยนต์ออกจากบ้านไป แล้วไม่กลับเข้ามาบ้าน2-3 วันแล้ว ทางผู้ตายติดต่อกับลูกสาวตนไม่ได้ ประกอบผู้ตายเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดกับใครชอบเก็บไว้คนเดียว ขี้น้อยใจ ซึ่งผู้ตายนั้นเคยทำแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ เพราะเมียเข้ามาเห็นก่อน พอมาวันนี้ก็ได้ผูกคอตัวเองเหมือนเดิมอีก ช่วงไม่มีใครอยู่บ้านจึงได้ผูกคอตนเองสำเร็จจนเสียชีวิต ตนขายของอยู่ตลาดญาติได้โทรศัพท์มาบอกตนจึงรีบมาที่บ้านและได้มาพบในสภาพแบบนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มอบร่างให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดตามประเพณีต่อไป

ภาพ/ข่าว เขมชาติ ชุณหกิจขจร / รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุรินทร์


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า