ชาวบ้านสุดทน ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่สุรินทร์ เปิดเพลง-เล่นดนตรีกันส่งเสียงดัง และเปิดเกินเวลา จนรบกวนเวลานอนของชาวบ้าน ที่ผ่านมาร้องเรียนเจ้าหน้าที่ไปหลายครั้ง แต่ไม่ได้ผล ที่สุดต้องบันทึกคลิปภาพเป็นเครื่องวัดเสียงเป็นหลักฐาน เพื่อใช้ร้องทุกข์มากับทีมข่าว
วันที่ 20 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 ได้โพสต์ข้อความว่า#ร้องเรียนตรวจสอบ เสียงดังเกินไปหรือไม่ ร้านอาหารติดคลองชลประทาน เป็นร้านอาหารแบบเปิด เปิดเพลงดัง ตอนวัดความดังอยู่ตรงข้ามร้าน ถ้าเอาเครื่องวัดความดังไปวัดในร้านจะขนาดไหนเวลาที่วัด 3ทุ่มกว่าค่ะ
ล่าสุดทีมข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของคลิปทราบชื่อว่าชื่อ น.ส.กิ่ง(นามสมมุติ) ได้เล่าว่า ร้านดังกล่าวตั้งอยู่ที่บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน มุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และห่างจากบ้านของตนนั้นประมาณ 500 เมตร ร้านอาหารดังกล่าวนั้นเปิดเพลงเสียงดังสนั่น และบางวันมีการแสดงดนตรีกันแบบสด ๆ ทั้งเสียงเบส กลอง กีตาร์ ส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วบริเวณ โดยในคลิปนั้นเป็นเครื่องวัดเสียงวัดได้ 81.2 dBA โดยข้อกำหนดว่า เป็นเสียงในสิ่งแวดล้อมทั่วไป ไม่เกิน 70 เดซิเบล ค่าที่วัดต้องเป็นค่าเฉลี่ยหรือไม่ หรือวัดว่าถ้ามีแค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเกิน 70 เดซิเบล ก็ไม่ได้คือผิดกฎหมาย
โดย น.ส.กิ่ง(นามสมมุติ) เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในระแวกนั้น ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า ตนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากกับปัญหาที่ร้านอาหารแห่งนี้ (ร้านไฮสคูล) ซึ่งตนก็มีลูกน้อยทำให้ลูกตื่นร้องงองแงช่วงเวลากลางคืน ตนจึงซื้อเครื่องวัดความดังมาวัดระดับเสียงซึ่งตอนถ่ายคลิปนั้นตนได้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านห่างออกมาจากถนนอีกฝั่งประมาณ 25 เมตร นอกจากเปิดเพลงและเล่นดนตรีเสียงดังสนั่น ทั้งเสียงเบส กลอง กีตาร์ ส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วบริเวณ ขณะเดียวกันยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เข้ามานั่งดื่มกินกันอย่างแออัด อีกทั้งร้านอาหารร้านดังกล่าว และบางวันก็ยังเปิดให้บริการเกินเวลา นอกจากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ยังไม่เกรงใจชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบข้างอีกด้วย ทำให้ในแต่ละคืนชาวบ้านละแวกนี้แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน
น.ส.กิ่ง(นามสมมุติ) ได้เล่าเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมา เคยแจ้งตำรวจและอำเภอในพื้นที่ไปแล้วหลายครั้งแต่เรื่องเงียบ ไม่ได้รับการแก้ไขใด ๆ ซึ่งตนต้องรอจนกว่าร้านจะปิด ก็ประมาณช่วงเที่ยงคืนไปแล้ว หรือไม่ต้องรอจนกว่านักท่องราตรีจะเดินทางกลับกันหมด ก็ประมาณ 02.00 น. บรรยากาศละแวกนี้จึงจะสงบเงียบ ถึงจะได้นอนหลับตาได้อย่างสนิท ซึ่งได้รับความเดือดร้อน เสียงเพลงจากร้านอาหารเปิดเสียงดังมาก จนนอนไม่หลับ ต้องเปิดเสียงโทรทัศน์ให้ดัง ๆ เพื่อกลบเสียงที่ดังมาจากร้านอาหาร และยิ่งดึกก็ยิ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และเสียงก็ยิ่งดังอึกทึกครึกโครม โดยบางคืนสังเกตเห็นว่าหลังจากที่ทางร้านได้ปิดให้บริการแล้ว แต่ยังให้นักท่องเที่ยวบางคนที่ไม่ยอมกลับบ้าน กระทั่งคราวนี้ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ เสียงดังมาร่วมปีแล้ว ตนเองจึงต้องออกมาร้องทุกข์กับสื่อเพื่อร้องผ่านทีมข่าว ให้ช่วยสะท้อนปัญหานี้ไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และแก้ไข้ให้ด้วย
จากนั้นเมื่อเวลา 23.30 น.ของคืนวันที่ 19. ต.ค. 65 ทางทีมข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อทดสอบฟังความดังของเครื่องดนตรีร้านดังกล่าว ก็พบว่ามีเสียงดนตรีดังจริง วัดความดังได้สูงสุดที่ 89.7 เดซิเบล ซึ่งโดยรอบๆบริเวณร้านดังกล่าวได้อยู่ในแถวชุมชน และมีบ้านพักประชาชนอยู่ใกล้เคียงหลายหลัง
ทางด้านอำเภอเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า ภาพรวมผู้ดูแลพื้นที่ในส่วนนี้ รวมถึงปัญหาส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์เท่านั้น ที่เป็นผู้ดูแล ควบคุม และแก้ไขปัญหา ส่วนเรื่องเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชาวบ้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ เทศบาลเมืองสุรินทร์ ที่เข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหาในเรื่องเวลาเปิด-ปิดนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือตำรวจ โดยหน่วยงานทุกฝ่ายต้องมีการบูรณาการรวมกันในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่หากตำรวจมีการตักเตือนแล้วไม่ฟังก็สามารถจับกุมได้ทันที หรือทางอำเภอสามารถสั่งปิดได้ โดยได้มีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดเท่านั้น
ด้าน สภ.เมืองสุรินทร์ กล่าวว่า ให้มีการปิดบริการในแต่ละวันไม่เกิน 01.00 น. เพราะสายตรวจลงตรวจพื้นที่ประจำ กรณีเสียงดังต้องดูก่อนว่าเสียงดังแค่ไหนที่เรียกว่ารบกวน เพราะร้านเป็นร้านอาหารเปิดโล่ง มีการแสดงดนตรีสด แต่หากมีเสียงดังมากเกินไป ก็ต้องไปตักเตือนให้ทางร้านปรับปรุงและแก้ไขต่อไป
ภาพ/ข่าว: เขมชาติ ชุณหกิจขจร / รมิตา สิงหเสรี/ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์