หนุ่มสวนผึ้ง จ.ราชบุรี หอบเอกสารหลักฐานการโอนเงินดาวน์รถยนต์กระบะให้กับสาวคู่กรณี ที่อ้างว่าถูกหลอกให้รัก ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ พร้อมแจ้งกลับ 4 ข้อหา ดำเนินคดีถึงที่สุด ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงในสังคม
เวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.พ. 65 จากกรณี นางสาว ปนิษา รอดนนท์ ได้คบหาหนุ่มคู่ใจมีอาชีพธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี จนมีการกล่าวหาฝ่ายชายว่าหลอกลวงเงินและรถยนต์ กระทั่งมีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวของฝ่ายสาว ถึงการกระทำของฝ่ายชายว่าเป็นคนหลอกลวง ที่ยังไม่ยอมหาเงินมาคืนให้ เป็นเรื่องราวผ่านโลกโซเซียล เป็นเหตุให้ฝ่ายชายได้รับความเสียหาย จนแจ้งความฟ้องร้องดำเนินคดีกัน
ล่าสุดวันนี้ นายประทีป ชาวประทุม หรือ เต๊าะ อายุ 46 ปี หนุ่มประกอบธุรกิจส่วนตัว ได้นำเอกสารหลักฐานออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเอง กรณีการถูกพาดพิงกล่าวหาของสาวคนดังกล่าว โดยนำเอกสารสำเนาสลิปการโอนเงินใช้คืนให้กับนางสาวปนิษา รอดนนท์ บางส่วน แต่ละครั้งมีการระบุจำนวนเงินไว้อย่างชัดเจน หลักฐานการแจ้งที่อยู่การขอบ้านเลขที่บ้าน ในที่ดินของครอบครัวที่ได้อยู่อาศัยมานานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 นำมาแสดง พร้อมทั้งรูปถ่ายของประตูบ้าน กุญแจที่คล้องถูกทุบทำลายจนเสียหาย รูปรถยนต์ป้ายแดงที่ฝ่ายหญิงขับไปชนจนพังได้รับความเสียหาย
นายประทีป ชาวประทุม กล่าวว่า ไม่ได้หลอกลวงผู้หญิงคนนี้ตามที่เขากล่าวอ้าง กรณีมีเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์นั้น ได้มีการพูดคุยเรื่องการออกรถจริง แต่วันออกรถได้พูดบอกไปแล้วว่า ไม่พร้อมที่จะออกรถเพราะมีเงินไม่พอ แต่ฝ่ายหญิงไปออกรถมาก่อน และยังมีหลักฐานการโอนเงินให้เขาตามเอกสาร หลังจากที่รู้จักกันมาช่วงเดือนกรกฎาคมผ่านทางเฟสบุ๊ก คุยกันเหมือนกับเป็นรุ่นพี่ มาวันหนึ่งฝ่ายหญิงมาเที่ยวที่บ้าน มากับลูกน้อง หลังจากนั้นก็ไป ๆ มา ๆ พอเขามาที่บ้าน ตนเองก็จะไปอยู่บ้านแม่ เพราะในเวลากลางคืนเขาก็มาที่บ้าน ยังรู้สึกตกใจว่าทำไมถึงเข้าไปอยู่ในบ้านได้ ทั้งที่ประตูบ้านล็อกไว้อยู่ มีวันหนึ่งตนกลับจากต่างจังหวัด มาพบว่าเขาอยู่ในบ้านกับลูกน้องที่มาด้วยกัน ลักษณะเหมือนกับไม่มีที่พักแล้วมาอยู่ในบ้านเรา ก่อนที่รู้จักกันคบกันแค่เหมือนเป็นพี่กับน้องเท่านั้น
ส่วนกรณีเรื่องเงินมีการหยิบยืมกันยอมรับว่าจริง และมีการโอนคืนกลับไปบ้างแล้ว ส่วนเรื่องซื้อรถยนต์นั้น เขาเห็นว่าเราขับมอเตอร์ไซค์ ผมบอกว่ายังไม่พร้อม เพราะอยู่ระหว่างรอเปียแชร์ทำงานรวบรวมเงินก่อน แต่สุดท้ายเขาก็ไปจัดการเรื่องซื้อรถเขาเอง และนำไปใช้ตลอด รถยนต์ป้ายแดงคันนี้ตนเองไม่ได้ใช้เลย ชื่อและเอกสารที่รับรถเป็นของเขาทั้งหมดไปตรวจสอบเช็คที่ศูนย์ได้ สุดท้ายเขาเอารถไปใช้และเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ผมก็ได้โอนเงินให้เขาไปตลอดตอนนี้ยอดโอนเงินอยู่ที่เกือบ 8 หมื่นบาท ที่โอนจ่ายค่าดาวน์รถให้กับคุณจุ๋ม ยังไม่ครบ ตนเองมีเงินแค่นี้ เขาไปออกรถมาแล้วเหมือนมาบีบให้ผมต้องจ่ายเงิน เพราะได้บอกไปแล้วว่ายังไม่รีบ ครั้งแรกได้โอนเงินให้เขาก่อน 5 หมื่นบาท พอโอนให้ไปแล้วก็ยังไม่เอารถมาให้ตนเองใช้ ต่อมาโอนเพิ่มไปอีกรวมแล้วเป็นเงิน 7 หมื่นบาทที่โอนไป ก็ยังไม่ได้ใช้รถ ต่อมาเขาขับรถป้านแดงคันที่ซื้อมาไปเฉี่ยวชนมีตำหนิ เลยทำให้รู้สึกว่ารถมีปัญหาตนเองไม่อยากได้แล้ว รถที่ซื้อก็เป็นชื่อของเขาเอง
ตอนนี้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยนำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ อยู่ที่ สภ.สวนผึ้ง ที่เกี่ยวกับลงในระบบโซเชียล และมีที่ สภ.เมือง ที่แจ้งความดำเนินคดีด้วย กรณีที่โพสต์ประจานตนเอง เป็น พรบ.คอมพิวเตอร์ หมิ่นประมาท ทุกคนที่เข้าไปคอมเม้นท์ผมแจ้งกลับทุกคน โดยเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว อันนี้เป็นใบแจ้งความที่ผู้หญิงคนนี้บุกรุกเข้าบ้านตนเอง มีการทุบกุญแจประตูบ้าน และนำรถเขาเข้าไปจอดขวางหน้าบ้านผม สุดท้ายเขาบอกว่าให้ผมเอารถมาคืน แต่รถทั้งสองคันนี้อยู่กับเขา มีกุญแจอยู่ที่เขาหมด เพราะเขาใช้รถทั้งสองคันสลับกัน ตอนนี้รถเข้าไปจอดในบ้านผมแล้ว โดยเมื่อวานได้เข้าไปตรวจสอบบ้านผมพบว่า มีการงัดประตูบ้านผม เสียหายหมด รถยังจอดอยู่ข้างในด้วย ตนเองพูดคุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเขาใช้แต่อารมณ์ ซึ่งตนเองมองว่าเหมือนทำเป็นขบวนการ เราจึงสู้ด้วยเอกสารหลักฐาน ยืนยันว่าไม่ได้โกงผู้หญิงคนนี้ ทุกอย่างมีการโอนเงินถูกต้อง
ยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุดกับทุกคนที่เข้าไปคอมเม้นท์หรือกดไลท์ กดแชร์ ที่เห็นว่าเข้าข่าย เพราะตอนนี้ตั้งให้ทนายเป็นผู้ดำเนินการหมดแล้ว เพราะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง กระทบกับการทำงานในอาชีพตนเองด้วย ไปที่ไหนจะมีคนประณามว่าเป็นคนขี้โกง หลอกลวง ใช้ชีวิตลำบาก อยู่อย่างหวาดระแวง แม้กระทั่งขอให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลเรื่องบ้านให้ ขั้นตอนการพูดคุยค่อนข้างช้า หลายอย่างทำให้ตนเองลำบาก แต่ก็ต้องทำ ในเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว แต่อยากชี้แจงว่าไม่ได้เป็นคนหลอกลวงหรือโกงเงินใคร อยากบอกให้เขาออกจากบ้านผมไปเถิด ว่ากันไปตามคดี ถ้าเกิดตนเองไม่สามารถให้ผู้หญิงคนนี้ออกจากบ้านได้ก็คงต้องดำเนินคดีถึงขั้นที่สุด ให้กฎหมายเป็นผู้บังคับเขาเอง ตอนนี้ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านตนเองอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ตนเองกลับไปอยู่บ้านแม่ เพราะแม่แก่มากแล้วอยู่คนเดียวด้วย และฝากเรื่องนักเลงคีย์บอร์ดทั้งหลาย ถ้ายังไม่รู้ข้อมูลที่ชัดเจน โดยผมจะดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะต้องรักษาชื่อเสียงเหมือนกัน ไม่ใช่จะมาโจมตีกันแบบนี้
สำหรับการดำเนินคดีนั้น นายประทีป ชาวประทุม ได้แจ้งความไว้ 4 ข้อหาได้แก่ ข้อหาฐานหมิ่นประมาท ข้อหาบุกรุกที่ดิน ข้อหาทำลายทรัพย์สิน และ ข้อหา พรบ.คอมพิวเตอร์ หรือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ รวม 4 ข้อหา ในการแจ้งความคดีดังกล่าว