เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ที่ตลาดรังสิต ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม , นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) , พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี , นางสาวกันตรัตน์ เริ่มสูงเนิน นายอำเภอธัญบุรี และนางสาวสุดาลักษณ์ ชินวิรารัฒน์ ประธานภาคีเครือข่ายตลาดสดน่าซื้อจังหวัดปทุมธานี ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง “การส่งเสริมผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยให้จำหน่ายสินค้ามาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค” ระหว่างสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กับภาคีเครือข่ายตลาดสดน่าซื้อจังหวัดปทุมธานี
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU การส่งเสริมผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยให้จำหน่ายสินค้ามาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เพื่อประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่าง สมอ. กับภาคีเครือข่ายตลาดสดน่าซื้อในจังหวัดปทุมธานี ทั้ง 33 แห่ง ได้แก่ ตลาดรังสิต ตลาดดีดีมาร์เช่ และตลาดดีดีคลอง 2 ตลาดอินเตอร์มาร์ท ตลาดเจริญกัลป์คลอง 8 ลำลูกกา ตลาดเจริญกัลป์คลอง 10 ตลาดฐานเพชรปทุม ตลาดพึ่งสุข ตลาดโรงเกลือท้าย ตลาดนัดอุดมทรัพย์ ตลาดมารวยหทัยราษฎร์ 54 ตลาดใหญ่ลำลูกกา ตลาดกลางลาดสวาย ตลาดมั่งมีทรัพย์ ตลาดสดฉัตรไชย ตลาดพระรูปคลอง 2 ตลาดรวยรุ่งทรัพย์ ตลาดชาญนคร ตลาดนานาเจริญ ตลาดสัมมากรเมืองเอก ตลาดสุชาติ ตลาดพูนทรัพย์ ตลาดเอซีลำลูกกาคลอง 4 ตลาด ส.รุ่งเรือง ตลาดไทยสมบูรณ์สแควร์ ตลาดสะพานแดงมาร์เก็ต ตลาดสี่มุมเมือง และตลาดหน้าวัดธรรมสุขใจ
นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า โดยมีแผนยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภค ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 – 2565) เป็นแนวทางในการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศไทย โดยให้ทุกหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภค บูรณาการการทำงานร่วมกัน เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อให้การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภค บรรลุผลตามที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายไว้ การลงนามบันทึกข้อตกลงในวันนี้ จึงนับเป็นนิมิตหมายที่ดีของการเริ่มต้นระหว่างภาครัฐ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล และภาคเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้าได้บูรณาการความร่วมมือร่วมกันในการคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า ซึ่งสอดคล้องตามนโยบาย “ประชารัฐ” ของรัฐบาล ที่ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกัน ในการคุ้มครองความปลอดภัยในคุณภาพสินค้าให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่อยู่ในการควบคุมของ สมอ. ทั้ง 126 รายการ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ของเล่น หมวกกันน็อค ท่อพีวีซี เหล็ก และวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น ซึ่งหากไม่ได้มาตรฐานอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้
นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU การส่งเสริมผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยให้จำหน่ายสินค้ามาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เพื่อประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่าง สมอ. กับภาคีเครือข่ายตลาดสดน่าซื้อในจังหวัดปทุมธานี ทั้ง 33 แห่ง จะร่วมมือกันส่งเสริมความรู้ให้ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยภายในตลาดตนเอง โดยเฉพาะร้านค้าขนาดเล็กขายสินค้าที่ได้มาตรฐานถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อมิให้เกิดการกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมทั้งเฝ้าระวังมิให้มีการจำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารให้กับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย เพื่อให้สามารถเลือกสินค้าที่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายได้อย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค หลังจากที่ลงนามข้อตกลงร่วมกันในวันนี้แล้ว สมอ. มีแผนการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยทุกตลาดข้างต้น เกี่ยวกับข้อกฎหมาย และวิธีการเลือกสินค้าที่ได้มาตรฐานเข้ามาจำหน่าย รวมทั้งมีแผนการตรวจติดตามการจำหน่ายสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร้านค้าปฏิบัติตามข้อกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
นางสาวสุดาลักษณ์ ชินวิรารัฒน์ ประธานภาคีเครือข่ายตลาดสดน่าซื้อจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ตลาดที่เข้าร่วมลงนาม MoU ในวันนี้ทั้ง 33 แห่ง พร้อมให้ความร่วมมือกับ สมอ. และยินดีปฏิบัติตามข้อกฎหมาย เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยที่อยู่ในพื้นที่ขายสินค้าได้มาตรฐาน ถูกต้องตามกฎหมาย อันจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ และเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าภายในตลาด และการลงพื้นที่ของ สมอ. เพื่อตรวจติดตามการจำหน่ายสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน รวมถึงเฝ้าระวังมิให้มีการจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐานภายในตลาดทั้ง 33 แห่งด้วย
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้ทั้ง 33 ตลาดโดยการนำของ คุณสุดาลักษณ์ ชินวิรารัฒน์ ประธานภาคีเครือข่ายตลาดสดน่าซื้อจังหวัดปทุมธานี ในจังหวัดปทุมธานีเรานั้นได้มีการทำงานร่วมกันมาอย่างตลอดเวลาโดยเฉพาะทางหอการค้าจังหวัดปทุมธานี สภาอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี ที่ผ่านมามีการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้รับความร่วมมือกับผู้ประกอบการตลาดทั้ง 33 ตลาดจนจังหวัดปทุมธานีสามารถผ่านพ้นจาก 1 ใน 10 อันดับจังหวัดที่มีการติดเชื้อมากที่สุด จังหวัดปทุมธานีเป็นเมืองอุตสาหกรรมทุกฝ่ายจึงได้ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี เมื่อเราเริ่มต้นแล้วขอให้ทุกฝ่ายเดินหน้าต่อไป ซึ่งทาง อบจ.ปทุมธานีเองก็มีแนวคิดว่าตั้งตลาดของ อบจ.ปทุมธานีเอง เป็นตลาดผักผลไม้ในจังหวัดปทุมธานีมารวมกันที่ตลาดนี้ ฝากทุกฝ่ายที่มาทำ MOU ในวันนี้ เมื่อทำแล้วขอให้เดินหน้าต่ออย่างยั่งยืน ผมยืนยันว่า องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด ทั้ง อบจ.อบต.เทศบาลต่าง ๆ จะต้องร่วมกันอย่างเป็นปึกแผ่นเพื่อเดินหน้าให้การเซ็นMOU ในวันนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องชาวปทุมธานีต่อไป.