ช่วงสายวันนี้ 20 ธ.ค. 64 นางสาวแก้ว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปีหนึ่งในผู้เสียหายที่เคยเข้ารับบริการเสริมความงาม ที่คลินิก EST CUTE CLINIC (อิส คิวท์ คลินิก) สาขาห้วยขวาง ที่เป็นของ นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือพิมรี่พาย แม่ค้าและยูทูปเปอร์ชื่อดัง โดยมีนางสาวอาลินดา หรือ หมอแพท หมอปลอม ที่แอบอ้างเอาเอกสารใบประกอบวิชาชีพของแพทย์หญิง รายหนึ่งมาสมัครงานที่คลินิกแห่งนี้ในตำแหน่งหมอพาร์ทไทม์ เป็นผู้ลงมือฉีดโบทอกบริเวณใบหน้า
นางสาวแก้ว ระบุว่า ตนเองเข้ารับบริการเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมาโดยขนาดนั้นเข้ารับบริการเสริมความงามโดยการฉีดโบทอกเข้าบริเวณใบหน้า หลายจุด ซึ่งตอนแรกไม่ได้มีความกังวลใดๆเพราะมีความมั่นใจในตัวเจ้าของคือพิมรี่พายว่าจะต้องคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า แต่เมื่อมีการลงมือทำตนเองไม่เห็นว่ามีการใช้ ตัวยายี่ห้ออะไรเนื่องจากว่าในวันเข้ารับบริการ ผู้ที่แอบอ้างเป็นหมอคนดังกล่าวได้มีการดึงยาเข้าสลิงฉีดยาไว้รอแล้ว ส่วนในขั้นตอนของการทำก็เป็นปกติเหมือนกับหมอเสริมความงามทั่วไปจึงไม่ได้มีความตั้งข้อสงสัยอะไร หรือมีสิ่งผิดปกติใดๆ นอกจากว่ามีบริเวณคิ้วข้าง ซ้ายสูงกว่าปกติซึ่งตนเองยังเข้าใจว่าเพราะมีการฉีดมาเพียงสามสัปดาห์ใบหน้าอาจจะยังมีการปรับไม่เข้ารูปแต่หลังจากที่ทราบว่าแพทย์คนดังกล่าวไม่ใช่แพทย์เสริมความงามจริงๆและจบเพียง ม.6 จึงเริ่มมีความวิตกกังวล ว่าจะเกิดสิ่งผิดปกติกับใบหน้าของ
ส่วนตัวยังทราบว่าทางคลินิกมีการไล่ประสานลูกค้าที่เข้ารับบริการกับหมอปลอมคนดังกล่าวแล้วแต่ยังไม่ถึงคิวตนเองจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อหวังว่าให้ทางคลินิกรับผิดชอบ หากเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นกับใบหน้าของตนเอง หลังจากเกิดเรื่องตนเองยังรู้สึกว่าตัวพิมพ์รี่พายน่าจะ ไม่ทราบเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ยังจากขอฝากถึงหมอปลอมรายดังกล่าวว่าให้หยุดการกระทำเพราะการกระทำที่ขาดความรู้ความสามารถแล้วมั้งให้กับลูกค้าอาจทำให้เกิดความเสียหายกับใบหน้าของลูกค้าได้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะยังมีผู้เสียหายรายอื่นอีกมากเพราะในวันดังกล่าวตนเองเห็นว่ามีผู้ใช้บริการก่อนตนเองประมาณสี่คนและยังมีผู้รอคิวอยู่อีกหลายราย
ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าคลินิก มีกระแสข่าวว่าผู้เสียหายจะมีการรวมตัวกันบริเวณหน้าคลินิกก่อนเข้าแจ้งความเมื่อทีมข่าวไปเฝ้าสังเกตการณ์ก็พบผู้เสียหายรายหนึ่งเดินทางมาโดยมีการให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่ามีการถูกนัดหมายจากกลุ่มคนดูแล Pages ของทางคลินิกว่าให้เข้ามาเจรจาซึ่งขณะทีมข่าวอยู่ระหว่างการพูดคุยกับผู้เสียหายรายนี้กอล์ฟมีความเคลื่อนไหวจากภายในคลีนิคโดยมีบุคคลสามคนเดินทางออกจากคลินิก ซึ่งคาดว่าในจำนวน 3 คนนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ของทางคลินิกเพราะมีการล็อคประตูคลินิก และวิ่งหลบหนี สื่อมวลชนขึ้นรถแท็กซี่ ที่มีการเรียกไว้ก่อนหน้านี้โดยไม่มีการให้ข้อมูลหรือพูดคุยกับทางสื่อมวลชนจนทำให้ผู้เสียหายรายที่คุยกับสื่อมวลชนอยู่ขณะนั้นต้องวิ่งติดตามไปเพื่อแสดงตัวว่าเป็นผู้เสียหายที่ถูกนัดหมายจากทางแอดมิน ทางกลุ่มบุคคลที่ขึ้นรถแท็กซี่จึงยอมให้ขึ้นรถและเดินทางออกไป
ขณะที่ พันตำรวจเอกเนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม กระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ระบุว่าเบื้องต้นจนถึงขนาดนี้ยังไม่ได้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกับทางปอเค้าบอรวมถึงขนาดนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานถึงตัวแพทย์หญิง ที่เป็นคนถูกแอบอ้างนำเอกสารมาใช้ในการสมัครงาน ส่วนประเด็นที่จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มหรือไม่ในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารวมถึงต้องรอผลการสอบปากคำของทางแพทย์และผู้เสียหายอีกครั้ง
