วันนี้ 13 ธ.ค.64 ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. แถลงการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง เพื่อมุ่งรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนพร้อมกับอำนวยความสะดวกด้านการจราจร,การดำเนินงานในห้วงเวลาที่ผ่านมา
โดย พลตำรวจตรีจิรสันต์ เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีการชุมนุมทั้งหมด 5 จุด ได้แก่ กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันฯ ที่บริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทย เวลา 10.00 น. / เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นที่พักค้างแรมหน้าองค์การสหประชาชาติ จะเคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 15.00 น. / กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เวลา 17.00 น. / กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่หน้าศาลฎีกา เวลา 17.30 น. / และ เฝ้าระวังกลุ่มทะลุแก๊ส รวมตัวกันที่แยกดินแดง เวลา 17.30 น. ซึ่งหากมีการรวมกลุ่ม คาดว่าจะมีการก่อความไม่สงบและเคลื่อนที่ไปยังจุดใกล้เคียง โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบกฎหมาย
สำหรับการปฏิบัติงานเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยจากการชุมนุมเมื่อวานนี้ (12 ธันวาคม 2564) พบว่าการชุมนุมของกลุ่มราษฎรและแนวร่วม ที่แยกราชประสงค์ มีการก่อเหตุจุดพลุ ยิงประทัดที่บริเวณใกล้เคียง คือ แยกชิดลม ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน พิสูจน์ทราบผู้กระทำผิดเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตั้งจุดตรวจความมั่นคง เพื่อสกัดกั้นอาวุธก่อนเข้าพื้นที่การชุมนุมรวม 12 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย แบ่งเป็น พกพาอาวุธมีด 6 ราย / ยาเสพติด 1 ราย / พกประทัดปิงปอง 1 ราย / และ ก่อเหตุยิงพลุประทัด สร้างความวุ่นวาย 1 ราย เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวยำส่ง สน.ลุมพินี / สน.ปทุมวัน / และ สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีแล้ว ขณะที่การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ที่จะเคลื่อนขบวนมาชุมนุมเรียกร้องหน้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง
พลตำรวจตรีจิรสันต์ ระบุว่า ตำรวจเตรียมกำลังไว้ดูแลความสงบเรียบร้อย และปิดการจราจรบนถนนพิษณุโลก บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล พร้อมกั้นพื้นที่ไว้ให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ด้านหน้าแนว และจะประสานกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมถึงการเสนอข้อเรียกร้อง อาจจะให้ส่งตัวแทนเข้าไปเจรจา ส่วนการชุมนุมจะใช้ระยะเวลานานเท่าใด ตำรวจอยากให้มีการตกลงกันได้ให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้เปิดเส้นทางการจราจรได้ตามปกติ สำหรับการเคลื่อนย้ายกลุ่มผู้ชุมนุมมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาสมทบกับกลุ่มที่อยู่ในกรุงเทพมหานครเพิ่มเติมหรือไม่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน
นอกจากนี้ โฆษก บชน. ยังกล่าวถึงกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน 1 ราย คือ สิบตำรวจตรีชัยพล จากยางโทน ถูกรุมทำร้ายร่างกาย บริเวณใกล้แยกมิตรสัมพันธ์ ถนนเพชรบุรี ภายหลังกลับจากปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความเรียบร้อยของการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่แยกราชประสงค์ ทำให้สิบตำรวจตรีชัยพล ได้รับบาดเจ็บและรถจักรยานยนต์เสียหาย นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้านหลังเลิกปฏิบัติหน้าที่ โดยมาจอดติดไฟแดงอยู่ พอกลุ่มผู้ก่อเหตุขับขี่รถผ่านมาเห็น และทราบว่าเป็นตำรวจ ก็เข้ามาก่อเหตุขึ้น โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างติดตามพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งจากที่ปรากฎในคลิปพบว่ามีประมาณ 5-6 คน โดยขณะนี้สามารถทราบตัวแล้ว 2 คน อยู่ระหว่างรอยืนยันตัวบุคคล ซึ่งทราบว่าทั้ง 2 คน เป็นผู้ที่ไปร่วมกิจกรรมการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ทั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่าเป็นการก่อเหตุซึ่งหน้า ยังไม่พบหลักฐานว่าเป็นการติดตามมาเพื่อทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ส่วนอาการของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกทำร้าย มีอาการบาดเจ็บ แต่ไม่ถึงขั้นสาหัส โดยชายโครงด้านขวาฟกช้ำ และมีบาดแผลเล็กน้อยตามร่างกาย ขณะนี้รู้สึกตัวดี รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ
พลตำรวจตรีจิรสันต์ ระบุด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการที่เจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายร่างกายโดยกลุ่มผู้ชุมนุมหลังกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุม จึงถือเป็นการถูกทำร้ายจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผู้กระทำผิด จะถูกดำเนินคดีตามข้อหามาตรา 296 ซึ่งมีโทษหนักกว่าข้อหาการทำร้ายร่างกายทั่วไป และยังมีความผิดในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ด้วย เนื่องจากรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการพิจารณาในการปรับมาตรการเพื่อดูแลความปลอดภัยของกำลังพล โดยอาจจะต้องให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปเป็นกลุ่ม แม้ว่าจะอยู่ในช่วงหลังเลิกปฏิบัติหน้าที่และกำลังเดินทางกลับก็ตาม
