พระธุดงค์เดินหลงป่า 5 วันไม่ได้ฉันอาหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกับทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และชาวบ้าน ออกตามหาพบนั่งหมดแรงอยู่หุบเขา
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นำโดย นายสวัสดิ์ ลุนผง หัวหน้าฝ่ายจัดการทรัพยากรธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารราบที่ 13 หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 ตำรวจ สภ.บ้านโดนเอาว์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.กันทรลักษ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในตำบลรุง อ.กันทรลักษ์ จำนวนกว่า 40 คน ร่วมกันออกค้นหา พระวิทย์ ธัมมะธีโต อายุ 33 ปี ซึ่งออกเดินธุดงค์ไปในป่าพื้นที่ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ แล้วหลงป่าหาทางกลับออกมาไม่ได้
สืบเนื่องจากก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจาก นางคำปลิว ศรีลาชัย อยู่บ้านเลขที่ 29 บ้านโนนเปือย หมู่ 6 ตำบลเมือง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ว่า พระลูกชายออกเดินธุดงค์ไปในป่าด้านหลังโรงเรียนดงรักวิทยา ตำบลละลาย อำเภอกันทรลักษ์ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2565 ซึ่งแม่ก็เป็นห่วงเพราะไปรูปเดียว จนกระทั่งวันที่ 5 เมษายน พระลูกชายได้โทรศัพท์มาบอกแม่ว่าหลงทาง หาทางกลับไม่เจอ แล้วก็เสียงก็หายไป ต่อมาวันที่ 7 พระวิทย์ก็ได้โทรศัพท์หาแม่อีกครั้งหมดแรงแล้วไม่ได้ฉันอาหาร แบตเตอรี่โทรศัพท์ก็จะหมด เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังกันออกตามหา
นายสวัสดิ์ ลุนผง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พยายามโทรศัพท์หาพระวิทย์ จนโทรติดจึงได้บอกให้เปิดโทรศัพท์เข้าไปที่กูเกิ้ลแมพ แล้วแจ้งตัวเลขมา เพื่อจับพิกัด จนกระทั่งทราบว่าพิกัดอยู่บนเขาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินขึ้นเขาไปตามพิกัดที่แจ้ง จนกระทั่งพบพระวิทย์นั่งพักอยู่หุบเขาหมดแรง เนื่องจากไม่ได้ฉันอาหาร เจ้าหน้าที่นำอาหารให้ฉันและดื่มน้ำก่อนที่จะพาเดินลงจากเขามาส่งให้แม่และญาติท่ามกลางความดีใจของทุกคน
พระวิทย์ เล่าว่า ตนบวชอยู่ที่วัดบ้านร่องคันแยงใหญ่ ต.สำโรง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ก่อนหน้านี้ ตนกลับมาเยี่ยมโยมแม่ และเนื่องจากสถานการณ์โควิด กิจนิมนต์ก็ไม่ค่อยมี ตนจึงคิดว่าจะออกไปเดินธุดงค์ในป่าพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ ก่อนไปก็ได้บอกกับแม่แล้วเข้าป่าไป ซึ่งป่าแถบนี้ตนไม่เคยมาเดินเลย ไม่รู้พื้นที่ วันแรกที่เดินไปก็ยังรู้ทิศทางอยู่ แต่พอวันรุ่งขึ้นตนข้ามห้วย 2 ลำห้วย ลำห้วยใหญ่กับลำห้วยเล็ก พอเดินข้ามลำห้วยเล็กแล้วก็รู้สึกว่า มึนงงไปหมดหลงทิศทาง ไม่รู้ทิศไหนเป็นทิศไหนเดินไปเดินมาก็กลับมาที่เดิม วันที่ 5 เม.ย. จึงโทรศัพท์บอกแม่ และวันที่ 7 เม.ย.ก็โทรศัพท์แจ้งอีกครั้ง ซึ่งตนเหนื่อยมากแทบทนไม่ไหว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาพบ ตนดีใจมาก ความรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลย.
ณัฐธรชนม์ สิริโชติสกุล / ศรีสะเกษ