รถพ่วง 18 ล้อชนชายนิรนามเดินข้ามถนน ร่างกระเด็นรถที่ตามหลังมาเหยียบซ้ำจนร่างเละชิ้นส่วนกระจายเต็มถนนระยะทางกว่า 100 เมตร
วันที่ 29 มกราคม 2565 ร.ต.อ.วัลลภ ยั่งยืน ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เข้าตรวจสอบ และช่วยเก็บชิ้นส่วนของชายนิรนามที่ถูกรถพ่วง 18 ล้อชน จนร่างกระเด็น ทำให้รถที่ตามหลังมาเหยียบซ้ำจนร่างเละชิ้นส่วนกระจายเต็มถนน ที่สามารถระบุได้ว่าเป็นชาย คือก้อนเนื้อช่วงหน้าอกยังเห็นราวนม 1 ชิ้น หัวและใบหน้าขาดหายไป นอกจากนี้ยังเจอชิ้นส่วนข้อเข่าจนถึงเท้า 1 ชิ้น ข้อศอกถึงมืออีก 1 ชิ้น นอกจากนั้นนับชิ้นส่วนไม่ได้อีกเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดบนถนนสายเอเชียขาล่องใต้ ท้องที่ ม.4 ต.ปรางหมู่ อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 28 มกราคม 2565
ในที่เกิดเหตุพบจุดที่รถชนบนถนน เป็นที่มืดมีแสงไฟสลัว ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถพ่วง18 ล้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 79-4598 กรุงเทพมหานคร คันพ่วงหมายเลขทะเบียน 78 – 9001 กรุงเทพมหานคร มีนายธีรนันท์ ตุ้มคำ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/3 ม.7 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง เป็นคนขับ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายเป็นเพศชายอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปี ในที่เกิดเหตุพบเพียงกางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำตกอยู่เพียงชิ้นเดียว ภายในกระเป๋ากางเกงไม่พบหลักฐานแสดงว่าเป็นใคร คาดว่าผู้ตายเป็นคนในพื้นที่ ไม่สวมเสื้อเดินข้ามถนนเพียงคนเดียว จึงนำชิ้นส่วนของชายนิรนามส่งโรงพยาบาลพัทลุง เพื่อตามหาญาติมารับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป และนำตัวคนขับรถพ่วงไปให้ปากคำที่ สภ.เมืองพัทลุงอีกครั้ง
ทางด้านนายธีรนันท์ฯ คนขับรถพ่วงเล่าว่าได้ขับรถบรรทุกสินค้าเกี่ยวกับเม็ดพลาสติกมาจากกรุงเทพมหานครไปส่งที่ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยขับมาในช่องจราจรซ้าย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีรถเก๋งจอดกะทันหันกลางถนน ตนจึงบีบแตรพร้อมกับหักหลบออกทางช่องขวาสุด จนไปชนเข้ากับร่างผู้ตาย ขณะนั้นตนใช้ความเร็วไม่เกิน 65 กม./ชม.ด้วยความหนักของรถตนพยายามประคองเข้าจอดไหล่ทาง ซึ่งตอนแรกตนคิดว่าชนท่อนไม้ เพราะจู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ ซึ่งสุดวิสัยจริงๆ จากนั้นมีรถบรรทุกขับตามหลังมาประมาณ 3-4 คัน เหยียบซ้ำจนร่างเละกระจายเต็มถนนดังกล่าว