อินทผลัมเพาะเมล็ดกำลังมาแรงแทนต้นเพาะเนื้อเยื่อ ชาวบ้าน อ.วังทอง จัดโปรโมชั่น ต้นฤดูฝนนี้ ซื้ออินทผาลัม 16 สายพันธุ์ 100 ต้นในราคา 5 แสนบาท การันตรีปลูก 1 ปี ผลผลิตออกกำไรเท่าตัว สามารถขายต้นละ10,000 บาทอย่างต่ำ คัดสายพันธุ์พิเศษผลใหญ่ หวาน ไม่มีรสฝาด
วันนี้ 2 กรกฎาคม 2565 นายศุภชัย อินทรัตน์ เกษตรชาวสวนอินทผาลัม 23/1 หมู่ 21 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนเคยเป็นพนักงานราชการตำแหน่งวิศวกรชลประทาน กระทั่งหันเหชีวิตมาปลูกและพัฒนาอินทผลัมห้วงหลายปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาสายพันธุ์อินทผลัมจนหวาน กรอบ ไม่ติดฝาด ตรงกับนิสัยคนไทยที่ชอบรับประทานผลไม้หวาน แตกต่างจากชาวตะวันออกกลางที่ชอบติดฝาดเล็กๆ
เดิมเคยปลูกอินทผลัมแบบต้นเพาะเนื้อเยื่อ แต่ปัจจุบันกระแสความนิยมเปลี่ยนไปเป็นเพาะเมล็ดที่รสชาติดีกว่าแล้ว และปีที่ผ่านมา เกษตรกรต้องปลูกอินทผลัมไปก่อนแล้วค่อยลุ้นเพศอีกที แต่ปัจจุบัน ตนได้ใช้วิธีส่งตรวจ DNA เพื่อแยกเพศ ผู้และเมีย ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ก่อนที่จะนำต้นกล้าอินทผลัมต้นเล็กๆ ไปปลูกในถุงบิ๊ก แบ็ก บนแปลงสาธิต อีกทั้งนำสายพันธุ์แดงอินเดีย, บาฮีเหลือง, บาฮีแดง, โคไนซี่, แดงอียิปต์ มาพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เป็นลักษณะการผสมเกสรข้ามสายพันธุ์ กระทั่งได้อินทผลัมที่ผลใหญ่ สีสด รสชาติหวานกรอบ ไม่มีรสฝาด ซึ่งสายพันธุ์เด่นของสวน ได้ตั้งชื่อว่า แดงอินเดีย อาร์ศูนย์(R.0) และในปีนี้ได้จำหน่ายต้นพันธุ์ ราคาต้นละ 1,000 บาทขึ้นไป โดยมีการแยกเพศเมียเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ยังไม่แยกเพศก็ราคาต้นละ 100 บาทขึ้นไปเท่านั้น
ที่ผ่านมา ก็มีเกษตรกรในตัวเมืองและต่างจังหวัด เดินทางมาชมและทดลองชิมผล และซื้อต้นพันธุ์เพาะเมล็ด ที่ลงปลูกในถุงเพาะชำ เข่งพลาสติก หรือ ถุงบิ๊กแบ็ก ที่รอการจำหน่าย ต้นที่ระบุเพศเมียราคาตั้งแต่ 1 พันบาทขึ้นไป นำไปปลูกลงดินหรือเลี้ยงไว้ในเข่ง อีกประมาณ1-2ปี ก็เริ่มติดผลแล้ว และสามารถขายยกต้นแบบติดผลแล้ว ในราคาต้นละ 10,000 บาท จนถึง 50,000 บาท หากต้นใหญ่ๆก็ 200,000บาทก็มี
ล่าสุด ได้จัดโปรโมชั่น ช่วงต้นฤดูฝนนี้ ซื้อต้นอินทผลัมในถุงบิ๊กแบ๊ก จำนวน 100 ต้น 16 สายพันธุ์ ในราคา 5 แสนบาท การันตีปลูก 1 ปี เริ่มให้ผลผลิต ขายได้ต้นละ10,000 บาทอย่างต่ำ รับรองผลใหญ่ หวาน ไม่มีรสฝาด เพียงแค่ปลูกบนพื้นที่ประมาณ 4 ไร่เท่านั้น มั่นใจ กำไรเท่าตัวแน่นอน
นายศุภชัย อินทรัตน์ เปิดเผยอีกว่า ต้นอิทผลัมเพาะเนื้อเยื่อทั่วประเทศมีประมาณ 1 ล้านต้น ให้ผลผลิตต่อต้น 100 กิโลกรัม รวมประมาณ 1 แสนตันต่อปี บริโภคในประเทศไม่หมดแน่ และส่งออกยังไม่ได้ กำลังหาช่องทางกับรัฐบาลอยู่ ขณะที่อินทผลัมเพาะเมล็ดก็มีเป็นล้านต้นเช่นกัน แต่หากได้ต้นรสชาติดี สีสวย ต้นนั้นราคาก็จะสูง กระทั่งเกษตรกรบางคนได้ขอแบ่งซื้อเมล็ดพันธุ์จากที่สวนไป ในราคาเมล็ดละ1,000บาท( พันธุ์ R.0-3) กลับไปลองเพาะ ทดลองปลูก ส่วนเกษตรกรท่านใดสนใจปลูกอินทผลัม ขอแนะนำให้เลือกปลูกแบบต้นเพาะเมล็ดที่พัฒนาสายพันธุ์แล้วถึงจะมั่นคง เนื่องจากสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึงอายุ 50-60 ปี ต้นไหนหวาน และมีลักษณะเด่นเฉพาะตัว ต้นนั้นก็จะมีราคาแพง สามารถปรึกษาที่ศูนย์เรียนรู้ได้ที่เฟสบุค “อินทผลัม ไร่อินทรัตน์” หรือโทรศัพท์ 089-4602483
สุพิณ พิโลก