วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. นายคณาวัฒน์ วงศ์แก้ว ผู้แทนคณะทำงานเสริมสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนจากคลิปวีดิโอของวุฒิสภา นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ผู้แทนสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการระดมบังคับใช้กฎหมายจราจรเข้มข้น และเปิดโครงการ “อาสาตาจราจร” โดยมอบรางวัลและเกียรติบัตรให้กับผู้ส่งภาพหลักฐานที่ได้รับคัดเลือก
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี อยากเห็นการจัดระเบียบการจราจรที่ดีขึ้น เพื่อสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ (จยย.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ตน ในฐานะ ผอ.ศจร.ตร. กำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ขับขี่ฯ ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและเป็นอันตรายต่อผู้อื่น โดยเน้น กวดขัน จับกุม ผู้กระทำผิดใน 4 ข้อหาสำคัญ ได้แก่ 1.ขับรถย้อนศร 2.ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 3.ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า 4.ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และหากพฤติการณ์การกระทำผิดตามข้อหาดังกล่าว มีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน หรือประชาชนทั่วไป จะมีการดำเนินคดีเพิ่มในข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท และต้องยื่นฟ้องผู้กระทำผิดต่อศาล พร้อมทั้งมีคำร้องขอให้ศาลริบรถของกลาง
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ศจร.ตร. ได้ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ, สวพ.91 และ จส.100 ในการทำโครงการ “อาสาตาจราจร” โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนร่วมกันทำหน้าที่พลเมืองดีในการตรวจตราการกระทำผิดฎหมายจราจร โดยเปิดช่องทางให้ประชาชนส่งคลิป กล้องหน้ารถหรือคลิปจากมือถือ ที่บันทึกเหตุการณ์การทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนโดยส่วนรวม ส่งคลิปมายัง 4 ช่องทาง ได้แก่ ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร., สวพ.91 ,จส.100 และ เพจมูลนิธิเมา ไม่ขับ โดย ศจร.ตร. จะรวบรวมข้อมูลส่งต่อไปยังสถานีตำรวจพื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยตั้งแต่เริ่มโครงการ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2564 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน มีประชาชนส่งคลิป การกระทำผิดกฎจราจรมายัง ตร. รวมทั้งสิ้น 36 คลิป คลิปที่สำคัญ เช่น คลิปรถจักรยานยนต์ขับรถย้อนศร บนทางด่วนบูรพาวิถี ซึ่งจากคลิปดังกล่าว ตร. ได้สืบสวนไปยังผู้ครอบครองรถ จนสามารถติดตามผู้ขับขี่ในวันเกิดเหตุมาดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย โดยดำเนินคดี 6 ข้อหา โดยปรับจำนวน 5 ข้อหา ได้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รายดังกล่าวจำนวน 6 ข้อหา ได้แก่ 1.ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ( ปรับ 500 บาท) 2.ไม่ชำระภาษีประจำปี ( ปรับ 500 บาท ) 3.ไม่จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ปรับ 1000 บาท ) 4.ไม่สวมหมวกนิรภัย (ปรับ 500 บาท ) 5.ฝ่าฝืนป้ายเครื่องหมายจราจร (ปรับ 1000บาท ) 6.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย (อยู่ระหว่างฟ้องคดีต่อศาล) หรือคลิปรถกระบะบรรทุกสิ่งของเต็มคันรถ จนเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้ใช้ทาง บนทางหลวงหมายเลข 3701 พื้นที่ สภ.หนองขาม ได้ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยดำเนินคดี 2 ข้อหา 1.ไม่จัดให้มีสิ่งป้องกันการตกหล่น (ปรับ 400 บาท) และ 2.บรรทุกสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด (ปรับ 500 บาท)
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ศจร.ตร. ได้แสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่จะบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อสร้างวินัยการขับขี่ของผู้ใช้รถ ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ให้ประชาชนสามารถใช้รถใช้ถนนด้วยความปลอดภัยอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ทั้งนี้หลังจากดำเนินการเข้มข้นทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พบผลเป็นที่น่าพอใจ เชื่อ ความร่วมมือจากประชาชน ในการสอดส่องการกระทำผิด จะช่วยลดอุบัติเหตุและการสูญเสียได้ โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ตำรวจจะบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะ การสวมหมวกกันน็อค 100% ช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม ถึง 4 มกราคม 2565 พร้อมต่อยอดโครงการอาสาตาจราจร เปิดรับคลิปการกระทำผิดกฎจราจร พร้อมมอบรางวัล 10,000 บาท ให้ทุกวัน วันละ 1 คลิป
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร่วมกับบริษัทขนส่งอาหาร เน้นการสร้างวินัยจราจร ด้วยการจัดอบรมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขนส่งอาหาร ควบคู่กับการสร้างกลุ่มไลน์ ระหว่างตำรวจและบริษัทขนส่งอาหาร แลกเปลี่ยนข้อมูลการขับขี่ผิดกฎหมายและไม่ปลอดภัย เพื่อป้องปรามการกระทำผิด หรือให้ทางบริษัทฯ บังคับใช้มาตรการต่าง ๆ กับผู้ขับขี่ในสังกัดได้ทันที