วันนี้ 26 ก.ค.2565 เวลา 10:00 น. พล.ต.ท. สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวแจ้งต่อสื่อมวลชนว่า เมื่อวานนี้ 25 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้จัดให้มีการประชุมบริหารทั่วไปของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขึ้น ซึ่ง พล.ต.ท.สุคุณฯ ได้ให้นโยบายผู้บังคับการและหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศให้เร่งฝึกพัฒนายุทธวิธี เตรียมการทั้งกำลังกายกำลังใจ และให้เป็นจุดประสานงานกลางของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหมดในพื้นที่รับผิดชอบตามนโยบายของ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพื่อรองรับการดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประเทศไทยในช่วง high season และได้กำชับการปฏิบัติของตำรวจท่องเที่ยวทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพสร้างความประทับใจและความอบอุ่นให้กับนักท่องเที่ยวในทุกโอกาสที่สามารถจะทำได้โดยให้นึกในใจเสมอว่า ทำอย่างไรจึงจะนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีก
นอกจากนี้ ยังสั่งการให้หัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวทั้งหมดทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ประกอบการทราบถึงการพัฒนาในส่วนของ supply side (ฝั่งผู้ประกอบการและผู้ให้บริการ) ให้มีคุณภาพตามนโยบายของท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งรวมไปถึงให้ตำรวจท่องเที่ยวต้องเป็นพี่เลี้ยงและเป็นที่ปรึกษาการท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบด้วย
ต่อมาในค่ำวันเดียวกัน ผู้กำกับและหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักได้นำนโยบายของผู้บัญชาการออกปฏิบัติทันทีในพื้นที่ภูเก็ต เกาะสมุย พัทยา และกรุงเทพมหานคร โดยได้ร่วมกันออกเดินประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการเรื่องการจำหน่ายกัญชาและกัญชงให้เป็นไปตามกฎหมายโดยไม่ควรจำหน่ายกัญชาให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่าอายุ ๒๐ ปี สตรีมีครรภ์ หรือ สตรีให้นมบุตรโดยเด็ดขาด และการกระทำอะไรเกี่ยวกับกัญชาจะต้องไม่สร้างกลิ่นเหม็นและสร้างความรำคาญต่อสาธารณะ เหนือสิ่งอื่นใด ให้คำนึงถึงภาพลักษณ์ของประเทศและชุมชนเป็นสำคัญ ซึ่งประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ท่องเที่ยวดังกล่าวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง
พล.ต.ต.อภิชาติฯ ได้ถือโอกาสนี้กล่าวขอบคุณในนามกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และข้าราชการตำรวจท่องเที่ยวทุกคนต่อประชาชนและผู้ประกอบการทุกภาคส่วนในพื้นที่สำหรับความร่วมมืออันอบอุ่นที่มอบให้กับตำรวจท่องเที่ยวในครั้งนี้ และกล่าวว่า นี่คือนวัตกรรมความร่วมมือในการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวกับประชาชนอย่างแท้จริงและกล่าวอีกด้วยว่า ตำรวจท่องเที่ยวจะเดินคู่ไปกับประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่เพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศการท่องเที่ยวให้ดีที่สุดเพื่อให้ทุกชุมชนของประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต้องกลับมาอีก อยากให้ตำรวจท่องเที่ยวทำอะไรโทรสายด่วนได้เพียงกด 1155 หรือติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่น Tourist Police I-Lert-U