รมว.พิพัฒน์ เปิดงานลากพระและแข่งขันเรือเพรียวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2565 ครั้งที่ 38
ค่ำวันคืนวันที่ 8 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ที่บริเวณศาลาประชาสันต์ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีลากพระและแข่งขันเรือเพรียวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2565 ครั้งที่ 38 โดยมี ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง และนายอารี ไกรนรา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าร่วมงาน โอกาสนี้นายสมพงษ์ มากมณี และนายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานราชการ เอกชนที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ
นายขวัญชัย รอดมณี นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง กล่าวว่าการจัดงานลากพระและแข่งขันเรือเพรียว ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ ประจำปี 2565 เป็นการจัดงานครั้งที่ 38 ภายใต้ชื่อว่า “อารยธรรมแห่งสายน้ำ เอกลักษณ์งามเมืองปากพนัง” กำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 8-17 ตุลาคม 2565 ณ ศาลาประชาสันต์-ปากพนังริเวอร์ฟร้อนท์ โดยเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณี รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยบูรณาการร่วมกันระหว่างเทศบาลเมืองปากพนัง และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้เรียนรู้คุณค่า และภาคภูมิใจในประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น อันดีงามของชาวลุ่มน้ำปากพนัง และได้สืบสานประเพณีลากพระและแข่งขันเรือเพรียวให้คงอยู่ตลอดไป ภายในงานมีกิ จกรรมหลายอย่าง ทั้งการประกวดเรือพระในพื้นที่ การแข่งขันเรือเพรียว ประเภทเรือชุมชน เรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรือเพรียวชิงถ้วยพระราช ฯ รุ่นเล็ก รุ่นกลาง รุ่นใหญ่ การแข่งขันเรือหางยาว การแข่งขันชกมวยทะเล สาธิตการซัดหลุด การแข่งขันว่ายน้ำจับเป็ด การแสดงมหรสพ และการแสดงจากชุมชนต่าง ๆ
โดยการจัดงานได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่อำเภอปากพนัง องค์กรภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน และพี่น้องประชาชนชาวลุ่มน้ำปากพนัง เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความสมานสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่อำเภอปากพนังอีกทางหนึ่งด้วย