ครูสาวโรงเรียนในพื้นที่อำเภอเมือง จ.สระแก้ว เข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำรูปภาพไปเปิดใช้เฟซบุ๊ก,ไลน์และติ๊กต๊อก เพื่อนำไปหลอกลวง พูดคุยตีสนิทกับชายหนุ่ม เพื่อหลอกให้ร่วมลงทุนหวังเชิดเงิน
วันที่ 21 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน นางสาวโยษิตา จินดาวรรณกร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 1 ต.เมืองฝาง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมารับราชการครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ในโรงเรียนแห่งหนึ่งพื้นที่ อ.เมือง จ.สระแก้ว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 1 (สพป.เขต1) ซึ่งเป็นคนที่มีแฟนคลับติดตามในโซเชียลกว่า 1 แสนคน เนื่องจากเป็นครูที่อยู่ในสมาคมครูสวยแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.มานพ เกียววานิชย์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังพบว่า ตนเองถูกแอบนำภาพถ่ายเพื่อไปเปิดบัญชีออนไลน์ เฟซบุ๊ก ไลน์และแอพพลิเคชั่นติ๊กต๊อกปลอม จนทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ น.ส.โยษิตา เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังขับรถยนต์กลับบ้านพักที่บ้านแก้ง อ.เมือง จ.สระแก้ว ได้มีคนเข้ามาทักในเฟซบุ๊กว่า อันนี้ใช่ไลน์ครูหรือไม่ พร้อมกับส่งรายละเอียด การพูดคุยกันทางไลน์กับบุคคลที่อ้างว่าเป็นไลน์ตนเอง เมื่อตนดูแล้วไม่ใช่ไลน์ตนเอง แต่มีบุคคลอื่นที่ปลอมบัญชีไลน์ ซึ่งมีการพูดคุยในไลน์ เป็นการชักชวนกันไปลงทุน ซึ่งเห็นว่าน่าจะเป็นเครือข่ายพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และยังมีบุคคลอื่นนำไปสร้างบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อว่า Meen Arunphiboon และ Panda Thiraphon (ปัจจุบันปิดบัญชีไปแล้ว) ซึ่งไปโพสต์ข้อความต่าง ๆ และพูดคุยกับชายบุคคลอื่น เพื่อให้ผู้อื่นไว้วางใจ และนำไปสู่การหลอกลงทุนมีการเอาภาพคลิปวีดีโอ ไปสร้างบัญชีแอพพลิเคชั่น ติ๊กต๊อก เชื่อว่า จะไปหลอกลวงผู้อื่นเช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ตนได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเป็นหลักฐานและช่วยดำเนินการตามกฎหมาย” น.ส.โยษิตา กล่าว
ทางด้าน พ.ต.ท.มานพ เผยว่าผู้เสียหายได้รับแจ้งความตามประสงค์และบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากได้มีคนนำชื่อและรูปของผู้เสียหาย ไปทำเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา ทำให้เกิดความเสียหายได้ ซึ่งคาดว่า กลุ่มมิจฉาชีพน่าจะเป็นกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มาในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยได้ให้ผู้เสียหายแจ้งความความกับตำรวจไว้เป็นหลักฐาน ที่มาก่อให้เกิดความเสียหายและความรำคาญ ไหนจะเป็นภาพลักษณ์องค์กร แต่มาโดนแบบนี้ก็น่าเห็นใจ ซึ่งในการจัดการเรื่องนี้แนะนำให้พยายามหาหลักฐานให้มากที่สุด เพื่อหาทางที่จะเอาคนผิดที่ทำบัญชีปลอม ส่งให้ตำรวจเพื่อจะได้รวบรวมติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว