เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง “ฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565)” ฉบับที่ 9 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 26-27 ก.พ.2565 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
รวมถึงให้ประชาชนเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน พื้นที่เสี่ยงริมแม่น้ำปัตตานี พื้นที่ อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง และ อ.เมืองยะลา รวมทั้งริมแม่น้ำสายบุรี ในพื้นที่ อ.รามัน อาทิ บ้านละแอ ต.บาลอ , ชุมชนตลาดล่าง ต.กายูบอเกาะ , บ้านสะโต บ้านกือเม็ง บ้านแยะ ต.อาซ่อง , บ้านพรุ ต.ท่าธง , บ้านเกะรอ ต.เกะรอ ริมคลองยะหา ในพื้นที่ อ.ยะหา อาทิ บ้านกาบุ ต.ยะหา , บ้านอาบอ บ้านละแอ บ้านตาเปาะ บ้านกือยา บ้านชะเมาะ บ้านกูแบรายอ ต.ละแอ รวมทั้งให้ติดตามสถานการณ์น้ำ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ซึ่งฝนที่ตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้จะมีผลกระทบไปจนถึงวันที่ 27 ก.พ.นี้ นั้น
ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนที่ได้ผลกระทบจากการเกิดน้ำท่วมขัง และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ดังกล่าว จึงได้กำชับพร้อมสั่งการไปยังทุกหน่วยในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน ทั้งในเรื่องการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของประชาชน การอำนวยความสะดวกด้านจราจร การจัดเตรียมสถานที่รองรับหากมีการอพยพ และการเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค สำหรับแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมเน้นย้ำในเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยให้ยึดหลักการปฏิบัติตนตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือไปยังประชาชน สามารถแจ้งเบาะแส ข้อร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือ มายังสายด่วน 191 และสายด่วน 1599 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสามารถสอบถามข้อมูลการจราจรได้ที่สายด่วน 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง “โฆษก ตร.กล่าว”