เจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้าง ขับรถปาเจโร ไปรับลูกสาว ม.3 สอบโอเน็ต ระหว่างทางพยายามจะแซงคันหน้า แต่แซงไม่พ้น รถชนเกาะกลางถนนพุ่งข้ามเลน ก่อนพลิกคว่ำหลายตลบ ตกข้างถนนอีกฝั่ง พ่อเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกสาววัย 15 อาการสาหัส
วันที่ 13 ก.พ.65 ร.ต.ท.จีรวัฒน์ ปานทอง รองสารวัตร (สอบสวน)สภ.เมือง บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ บนถนนสายบุรีรัมย์-คูเมือง บริเวณบ้านพระครูน้อย ต.พระครู อ.เมือง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กม.จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม เข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เอนกประสงค์ ยี่ห้อมุตซูบิชิ ปาเจโร สีน้ำตาล ทะเบียน ฆอ-4160 กรุงเทพฯ ตกอยู่ฝั่งขาเข้าตัวเมือง ชนกับต้นไม้สภาพพังยับเยิน ตรวจสอบภายในรถไม่พบคน ห่างรถประมาณ 5 เมตร พบศพนายชัยศักดิ์ เสรีสงแสง อายุ 55 ปี อยู่เลขที่ 127 หมู่ 7 ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ในสภาพกระดูกแขนขาหักหลายท่อน ใกล้กันพบ น.ส.ธนสรณ์ เสรีสงแสง อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดบุรีรัมย์ สวมชุดนักเรียนยังพอรู้สึกตัว แต่มีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง คาดว่าทั้งสองไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย จึงกระเด็นออกจากตัวรถระหว่างเกิดอุบัติเหตุ
สอบถาม น.ส.กรรณิกา สุขขัง อายุ 25 ปี อยู่เลขที่ 10 หมู่ 10 ต.พระครู คนขับรถตามหลังรถคันเกิดเหตุ เล่าว่า เห็นรถคันดังกล่าว ขับมาด้วยความเร็ว พยายามจะแซงรถคันหน้า แต่แซงไม่ได้ เพราะคันหน้าไม่หลีกทางให้ จากนั้นรถคันเกิดเหตุได้ขับเบียดไป แล้วเร่งความเร็ว ก่อนจะเสียหลัก แล้วข้ามเกาะกลางถนนพุ่งข้ามเลนไปตกอีกฝั่งหนึ่ง
ต่อมา นางดวงเดือน สมานมิตร อายุ 38 ปี ลูกจ้างคนขับรถเกิดเหตุ เล่าว่าผู้ตายเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างหลายสาขา วันนี้เถ่าแก่ไปส่งลูกสาวไปสอบโอเน็ตในตัวเมือง ห่างจากบ้านประมาณ 30 กม.พอช่วงเย็นได้ขับรถออกจากร้านจะไปรับลูกสาว ก่อนจะได้รับโทรศัพท์ว่าเถ่าแก่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
นายไพศาล สุทธิสา จนท.หน่วยกู้ชีพ อบต.พระครู บอกว่า หลังรับแจ้งเข้ามาตรวจสอบ พบว่ามีคนเสียชีวิตแล้ว 1 ราย แต่มีเด็กใส่ชุดนักเรียน นอนบอกว่าปวดหลังอย่างแรง ตรวจสอบพบบริเวณขามีแผลฉกรรจ์ จึงรีบปฐมพยาบาลนำตัวส่งโรงพยาบาลดังกล่าว แต่ยังไม่รู้ถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ
วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าวบุรีรัมย์
