เกษตรกรชาวสวนถึงกับเข่าทรุด ลงทุน 5,000 ซื้อสายไฟต่อจากบ้านไปกระท่อมนาไกลกว่า 200 เมตร ถูกคนร้ายรื้อเอาไปเกลี้ยง ช้ำใจไม่นอนนอนเฝ้าเพียงคืนเดียวสายไฟหาย ต้องเข็นน้ำมารดแทน เพราะยังไม่มีเงินซื้อสายไฟ วอนอย่าซ้ำเติมเกษตรกรอีกเลย อยากให้ตำรวจตามจับมาให้ได้ เพราะคาดว่าคนทำเป็นกลุ่มหัวขโมยระดับล่าง
วันที่ 13 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหนองเหล็ก หมู่ 9 ต.ถลุงเหล็ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกคนร้ายเข้าไปขโมยสายไฟพ่วงไปกระท่อมยาวกว่า 200 เมตร จนไม่มีไฟฟ้าใช้ และปั่นน้ำมารถพืชที่ปลูกไว้ได้ ตรวจสอบพบนายวัน วาสรส อายุ 55 ปี อยู่เลขที่ 31/3 ม9 ต.ถลุงเหล็ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายวันพาไปดูจุดที่คนร้ายขโมยสายไฟ ที่พ่วงมาจากหมู่บ้าน ไปหากระท่อมนาห่างจากหมู่บ้านประมาณ 200 เมตร พบสายไฟถูกตัดออกจากต้นทางและปลายทาง
นายวัน เล่าว่า หน้าแล้งจะออกมาปลูกผักในที่นาที่ว่าเปล่า และพืชชนิดอื่น เพื่อเป็นรายได้เสริม เพราะทำนาได้ปีละ 1 ครั้ง แต่ติดไม่มีไฟฟ้ามาปั่นน้ำมาใช้ จึงลงทุนเจาะน้ำบาดาลและซื้อปั้มน้ำ ใช้เงินทุนไปประมาณ 10,000 บาท จากนั้นได้ซื้อสายไฟขนาด 2X2.5 แบบสีขาว จำนวน 2 ม้วน ๆละ 100 เมตร เป็นเงินอีกกว่า 5,000 บาท ต่อจากบ้านไปหากระท่อมนาหลังจากนั้นตนได้ไปนอนที่กระท่อมนา เพื่อทำงานได้สะดวก และเฝ้าเครื่องมือทางการเกษตรที่เก็บไว้ในกระท่อม มีเพียงวันเดียวที่กลับไปนอนบ้าน รุ่งเช้ามาพบว่ามีคนร้ายขโมยสายไฟไปทั้งหมด ยอมรับว่าเข่าอ่อน เพราะไม่มีเงินไปซื้อสายไฟมาใส่ใหม่อีก 5,000 บาท ตอนนี้ต้องเข็นน้ำมารถผักก่อนเพื่อไม่ให้ผักแห้งตาย
อยากฝากไปถึงคนร้ายว่าอย่าไปทำกับเกษตรกรเลย เพราะลำบากอยู่แล้ว และอยากให้ตำรวจตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะเชื่อว่าคนร้ายจะเป็นกลุ่มเก็บของเก่า
วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์
