นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารและเจ้าของปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นำช้างในปางช้างแม่สา ร่วมกับควาญช้าง นำช้างจำนวน 11 เชือกมานวดข้าว แยกไว้ส่วนหนึ่งสำหรับช้าง และพนักงานในปางช้างก็นวดข้าวพร้อมกันด้วย ก็แยกไว้อีกส่วนหนึ่ง หลังจากที่พนักงานในปางช้างและควาญช้างได้รวมกันเกี่ยวข้าวที่ปลูกในปางช้างไว้ประมาณ 10 ไร่แล้ว ซึ่งข้าวดังกล่าวทั้งหมดจะนำไปเลี้ยงช้างจำนวน 70 เชือกในปางช้างแม่สา และยังนำข้าวดังกล่าวไปเลี้ยงพนักงานในปางช้างแม่สาทั้งหมดด้วย
นางอัญชลี บอกเล่าให้ฟังว่า สำหรับ ปางช้างแม่สา ก่อตั้งโดยนายชูชาติ กัลมาพิจิตร ผู้เป็นพ่อของตน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 รวมเป็นระยะเวลา 45 ปีจนถึงปัจจุบัน โดยมีนางอัญชลี กัลมาพิจิตร ทายาทคนโตเข้ามาบริหารงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของบริษัท ปางช้างแม่สา จำกัด ด้วยความที่บริษัทฯเป็นเจ้าของช้างเองทุกเชือก จึงทำให้การบริหารงานปางช้างแม่สาเป็นการบริหารแบบเอกชน 100%
ก่อนหน้าที่จะมีปัญหาโรคไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นนั้น ปางช้างแม่สาเคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในอันดับต้นๆของประเทศไทย เคยได้รับมาตรฐานปางช้างประเทศไทยเป็นแห่งแรกจากกรมปศุสัตว์ และเคยได้รับมาตรฐานไอเอสโอ 2001 เวอร์ชั่น 2000 เป็นแห่งแรกของโลก รวมถึงเคยโด่งดังจากการบันทึกสถิติโลกกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดในเรื่องรูปวาดโดยฝีมือช้างที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ( 1.5 ล้านบาท ) โดยที่ผ่านมากว่า 40 ปี ปางช้างแม่สาได้มีการแสดงช้างถึงวันละ 3 รอบ รวมถึงมีบริการการนั่งบนแหย่งช้าง และอื่นๆอีก เคยสร้างรายได้มหาศาลจากการหลั่งไหลเข้าชมปางช้างของนักท่องเที่ยวในแต่ละวัน ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทำให้ปางช้างมีรายได้เพียงพอต่อการประกอบกิจการปางช้างและการเลี้ยงดูช้างจำนวนทั้งหมด แต่ในปัจจุบันเราได้ลดขนาดองค์กรลงจนเหลือพนักงานทั้งหมดแค่ 108 คน (จาก 330 คน) แต่เรายังคงมีจำนวนช้างที่ต้องเลี้ยงมากถึง 70 เชือก และเรามีค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่สูงถึงประมาณ 2.5 ล้านบาท แม้ว่าจะลดขนาดลงอย่างเต็มที่แล้วการบริหารงานในช่วงที่มีการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาเป็นเวลาประมาณสองปีนั้น เราต้องใช้เงินของบริษัทฯไปจนหมด และยังต้องกู้เงินธนาคารมาเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมแล้วกว่า 50 ล้านบาท เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูช้างด้วยหญ้าสดวันละ 9-10 ตันทุกวัน รวมถึงอาหารเสริม ประเภทข้าวเหนียวนึ่ง อาหารเม็ดของซีพี ผลไม้ กล้วยอ้อย ยาสมุนไพร ยารักษาโรค เวชภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน, คนเลี้ยงช้าง(ควาญช้าง) และนายสัตวแพทย์ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆของบริษัทฯอีกมากมาย
ผลกระทบของโรคไวรัสโควิด -19 ทำให้ปางช้างแม่สาต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบของปางช้างใหม่เป็นแบบนิวนอมอล เพื่อป้องกันการระบาดของโรค โดยได้ประกาศยกเลิกการแสดงช้าง รวมถึงยกเลิกการนั่งช้างบนแหย่งช้าง, การนั่งช้างทุกประเภทและหันมาเริ่มต้นปลดโซ่ช้าง ให้อิสรภาพช้าง เลี้ยงช้างแบบเข้าฝูง เลี้ยงช้างแบบมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ช้างมีเวลาและมีความสุขสบายมากขึ้น ในส่วนของสถานที่เราก็ลดขนาดของปางช้างลง และนโยบายที่สำคัญที่สุดของการบริหารงานแบบนิวนอมอล คือการเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมช้างฟรี ตามสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ และการขาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้