วันที่ 6 ก.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่คลองท่าพรุ เขตเทศบาลเมืองสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากมีการโพสต์ในสื่อโซเชียล ว่าพบปลาตายเกลื่อนเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจากการที่ลงตรวจสอบพร้อมกับประธานชุมชนท่าพรุ 1 พบมีปลาตายจำนวนหนึ่ง ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ประกอบไปด้วยปลาตะเพียน ปลาดุก ปลาสลาด และเป็นที่น่าสังเกตว่าปลาที่ตายเป็นปลาขนาดใหญ่ และจากการสังเกตพบว่า น้ำในบริเวณดังกล่าวมีสีค่อนข้างขุ่น ลักษณะน้ำไม่ไหล มีท่อซีเมนต์ขนาดใหญ่สำหรับระบายน้ำจากชุมชนหลายจุด ซึ่งอยู่รายล้อมคลองดังกล่าว ทั้งนี้มีฝูงปลาจำนวนมาก โดยเฉพาะปลานิลว่ายไปมา มีพื้นที่ซึ่งเป็นน้ำพุกลางน้ำ แต่เหมือนถูกปล่อยทิ้ง ป้ายห้ามจับสัตว์น้ำล้มตะแคงจมน้ำ
นายเสริมวิทย์ มุเส็มสะเดา ประธานชุมชนท่าพรุ 1 บอกว่าซากปลาที่เห็นในวันนี้ เป็นปลาที่ตายเมื่อเกือบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเท่าที่สังเกตพบว่าจะมีซากปลาลอย และส่งกลิ่นเหม็นช่วงฝนทิ้งช่วงหลายๆวัน ส่วนสาเหตุตนเองคิดว่าน่าจะมาจากน้ำขาดออกซิเจน ทั้งนี้คลองท่าพรุเป็นที่เก็บน้ำแต่น้ำไม่ไหล รอบๆเป็นชุมชน ที่ปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำคลอง โดยไม่ผ่านการบำบัดก่อน เมื่อปริมาณน้ำในคลองน้อย แต่มีน้ำเสียไหลมามาก ทำให้ออกซิเจนมีน้อย จนอาจเป็นเหตุทำให้ปลาตาย
ที่ผ่านมาเคยทำประชาคมทุกปีเพื่อให้ทางเทศบาลฯได้รับทราบ 1 ในหลายๆข้อคือการขอกังหันลม เพื่อบำบัดน้ำเสีย มาเพิ่มออกซิเจนผิวน้ำ เพราะที่นี่ปลาเยอะ นี่ก็ครบรอบ 10 ปีพอดีที่มีการอนุรักษ์พันธุ์ปลาในคลองท่าพรุแห่งนี้ ซึ่งหลังจากที่มีการร้องขอ ก็ไม่มีการตอบรับใดๆ ในเรื่องน้ำเสีย โดยจริงๆไม่ต้องบำบัดก็ได้ แต่ข้อให้เพิ่มออกซิเจน ให้ปลาอยู่ได้
ถ้าในเขตเทศบาลฯที่นี่จะรู้จักในนามสวนสาธารณะ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้าน ตอนเย็นๆจะมีชาวบ้านพาครอบครัว มานั่งเล่น ให้อาหารปลา เป็นภาพที่น่ารักดี ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องทางราชการที่ผ่านมาทางชุมชนได้ยื่นเรื่องไปแล้วในเวทีประชาคม แต่หากยังไม่ขยับอีก เราอาจจะไปทางภาคเอกชนหรือผู้ใหญ่ใจดี เผื่อจะได้เครื่องออกซิเจนมาใช้สักเครื่องสองเครื่อง
ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคยมีการรณรงค์ ในการดูแลคลองแห่งนี้ แต่ขาดความต่อเนื่อง ทั้งนี้มองว่า คลองแห่งนี้ผ่านหรืออยู่ในเขตเทศบาลสะเดาๆ น่าจะให้ความสำคัญมากกว่านี้ ซึ่งห่างจากเทศบาลฯประมาณ 200 เมตรเท่านั้น ประธานชุมชนท่าพรุ 1 บอก