วันที่17 มิ.ย.65 จากกรณีที่ เมื่อเวลา07.30 น. ที่ผ่านมาได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้ามาลักเงินในตู้บริจาคภายในวัดโคกกระต่าย หมู่ที่1 ต.บ้านลำ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ตู้บริจาคตั้งอยู่ที่ศาลาการเปรียญ พบตู้บริจาคมีเศษกระจกแตกล่วงอยู่กับพื้น และยังมีธนบัตรแบงก์ 20 บาทตกอยู่ ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณลานหน้าศาลาได้จับภาพคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ30ปีใส่เสื้อยึดสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ100 สีน้ำเงิน-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกกันกันน็อก สีขาว เข้ามาจอด และขึ้นไปขโมยเงินในตู้บริจาคบนศาลาชั้น2 เสร็จแล้วได้วิ่งหนีลงมาที่รถจักรยานยนต์เตรียมที่จะหลบหนี
ซึ่งในภาพรักษาการเจ้าอาวาสได้วิ่งตามลงมาทันได้กระโดดถีบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายจนล้มละมีการต่อสู้กับคนร้ายสาวมัดใส่กันอยู่นานจนมีกรรมการวัดอายุ70ปีที่พักอาศัยอยู่ในวัดเข้ามาช่วยโดยการใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ2เมตรฝาดคนร้ายหลายจนคนร้ายได้รับบาดเจ็บวิ่งหลบหนีไปได้ ทิ้งจักรยานยนต์ที่ขี่มาไว้ ยังพบหมวกกันน็อก กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง เสื้อกันหนาว ตกอยู่ที่พื้นใกล้กับรถจักรยานยนต์ของคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิหารแดงเข้าตรวจสอบตรวจค้นในกระเป๋าพบสร้อยคอทองคำจำนวน2เส้นเส้นละ2สลึง เงินสด800บาท จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุดช่วงบ่ายผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังวัดโคกกระต่ายอีกครั้ง พบพระชาญณรงค์ กตสาโรอายุ53ปี รักษาการ เจ้าอาวาสวัดโคกกระต่ายได้พาไปดูตู้บริจาคเงินบนศาลาการเปรียญที่ถูกคนร้ายใช้ที่กรวดน้ำทองเหลืองทุบกระจกแตกพบเศษกระจกตกเกลื่อนและยังชี้จุดด้านหลังศาลาการเปรียญที่คนร้ายวิ่งหนีลงไปทางบันไดจนพระชาญณรงค์ กตสาโรอายุ53ปีวิ่งตามไปทันแล้วถีบรถจักรยานยนต์คนร้ายล้มลงและได้ต่อสู้กันอยู่สักพักก็มี นายสมพร รัตนะวะลาหะ อายุ 63 ปีลูกศิษย์วัดถือไม้ไผ่ขนาดยาว 2 เมตรเข้ามาช่วยตีคนร้ายหลายครั้งคนร้ายก็สู้โดยการต่อยจนคนร้ายเห็นว่าสู้ไม่ได้จึงวิ่งหนีไปด้านหลังวัด ส่วนพระชาญณรงค์ ได้ชี้บาดแผลที่หัวเข่าและหลังเท้าขวาที่ถูกคนร้ายผลักล้มกระแทกพื้นและยังนำไม้ไผ่ที่ใช้ตีคนร้ายมาให้ผู้สื่อข่าวดูพบมีร่องรอยแตกที่ปลายไม้ไผ่
ด้าน นายสมพร รัตนะวะลาหะ อายุ 63ปี ที่เป็นลูกศิษย์วัดเล่าว่าเห็นคนดังกล่าวขี่จยย.มาที่วัดนึกว่ามาเข้าห้องน้ำสักพักได้ยินเสียงเอะอะโวยวายตนเห็นหลวงพ่อฉุดกระชากกับคนร้ายจึงวิ่งมาช่วยหลวงพ่อ ตนมองเห็นไม้ไผ่ว่างอยู่ข้างห้องน้ำจึงหยิบไม้ไผ่มาช่วยหลวงพ่อฟาดไปที่ตัวและแขนของคนร้าย ตนเองก็กลัวคนร้ายแต่ตนก็ต้องช่วยหลวงพ่อ ถ้าคนร้ายมีอาวุธก็ไม่รู้ว่าตนกับหลวงพ่อจะเป็นยังไง คนร้ายมาคนเดียวขี่จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเทียนซึ่งตนก็ถูกคนร้ายต่อยเตะเหมือนกันพักใหญ่คนร้ายก็วิ่งหนีไปด้านหลังวัด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.วิหารแดงได้กระจายกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายตามลักษณะการแต่งตัว จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ขณะที่เดินหลบหนีอยู่ริมถนนสุวรรณศรใกล้เคียงปั๊มบางจาก มุ่งหน้า ต.หินกอง อ.หนองแค ห่างจากวัดที่เกิดเหตุประมาณ2กม.จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนร้ายมายัง สภ.วิหารแดง เพื่อส่งพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำซึ่งทราบชื่อคนร้ายชื่อนายวินัย หรือต้น อายุ38ปี พักอาศัยใน ต.หินกอง อ.หนองแค จากการสอบสวนคนร้ายทราบสารภาพก่อเหตุทุบตู้บริจาคขโมยเงินจริงได้เงินไปจำนวน800บาท เจ้าหน้าที่จะทำการส่งตัวนายวินัยตรวจหาสารเสพติด ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุนายวินัยยังให้วกไปวนมาเบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง ตั้งข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและจะนำตัวนายวินัยส่งฟ้องศาลจังหวัดสระบุรีช่วงเช้าในวันพรุ่งนี้ต่อไป
ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ จังหวัดสระบุรี