ผัวเมียจอมเมาก๊งจนลืมดูเตาฟืนไหม้บ้านวอดทั้งหลัง เหลือแค่ขวดเหล้า

สองผัวเมียจอมเมาชาว อ.สตึก บุรีรัมย์ ไปเยี่ยมญาติต่างหมู่บ้าน ไม่ถึง 1 ชม.ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง ทั้งสองให้การสภาพอ้อแอ้ ยอมรับก๊งทุกเช้ากับเมีย เมียระบุก่อนออกบ้านให้ดับไฟที่เตาฟืน คาดว่าดับไม่หมด ฝ่ายชายยอมรับ”เมาค้าง”ขณะผู้ใหญ่บ้านเตือนแล้วสองผัวเมียชอบดื่ม ให้ระวังไฟไหม้บ้าน สุดท้ายเจอจนได้ สิ่งที่เหลือไว้คือเตากับหม้อ 1 ใบ และขวดเหล้าที่ไม่ถูกไฟไหม้

วันที่ 13 ม.ค.65 เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กิจไธสง รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านเรือนชาวบ้าน ที่บ้านยางงาม หมู่ 10 ต.ทุ่งวัง อ,สตึก จึงประสานรถดับเพลิงจาก อบต.ในพื้นที่เข้าช่วยดับเพลิง ที่เกิดเหตุ ไฟกำลังไหม้บ้านไม้ชั้นเดียวเลขที่ 227/3 หมู่ 10 ต.ทุ่งวัง ไฟได้โหมไหม้อย่างแรง เพราะตัวบ้านเป็นเชื้อเพลงอย่างดี ประกอบกับมีลมกระโชกแรง รถดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่บ้านเสียหายทั้งหลัง แต่ไม่พบเจ้าของบ้าน

ต่อมาได้มีนายนำพล ยองรัมย์ อายุ 51 ปี และนางสาวพร ทะนารัมย์ อายุ 57 ปี สองสารมีภรรยา เจ้าของบ้านเดินทางมาถึง นางสาวพรให้การกับตำรวจด้วยอาการสภาพเมาอ้อแอ้ ว่าตอนเช้าได้หุงข้าวไว้ที่เตาฟืน จากนั้นได้มีญาติโทรมาหาให้ไปดูใจญาติที่กำลังป่วยหนัก ตนจึงรีบแต่งตัว และบอกให้สามีไปดับไฟที่เตาหม้อหุงข้าว สามีซึ่งยังมีอาการเมาบอกว่า “เรียบร้อยแล้ว”จึงพากันขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน หลังจากนั้นประมาณ 1 ชม.ได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่บ้านว่า”ไฟไหม้บ้าน”จึงรีบมาดูพบว่าไฟได้ไหม้วอดไปทั้งหลังแล้ว สาเหตุคาดว่าสามีน่าจะดับไฟไม่หมด เพราะยังมีอาการเมาสุรา ทำให้ลมซึ่งกำลังพัดแรงปลิวไปติดกับกองฟืนหรือตัวบ้านจึงเกิดลุกไหม้ดังกล่าว

ขณะที่นายนำพล สามีนางสาวพร ให้การด้วยอาการอ้อแอ้เช่นเดียวกับภรรยาว่า ก่อนออกจากบ้านได้เข้าไปดับไฟจริง แต่ไม่รู้ว่าดับสนิทหรือไม่ ยอมรับว่า”เมาค้าง”ทั้งยังมาก๊งตอนเช้ากับภรรยาอีกคนละ 1 ก๊ง และยอมรับในความผิดพลาด

ด้านนายเหรียญ พิเนตร อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บอกว่าไฟไหม้น่าจะเกิดจากเตาหม้อหุงข้าว ที่ดับไม่สนิท จึงลามไปติดกับตัวบ้าน ส่วนสาเหตุคาดว่าทั้งสองคน ไม่สนใจ เพราะมัวแต่เมาสุรา ชอบดื่มสุราด้วยกันทั้งวัน เคยเตือนแล้วหลายครั้งว่าเวลาเมาเหล้าให้ระวังเรื่องฟืนไฟ สุดท้ายทรัพย์สินโดนไฟไหม้ทั้งหมด เหลือเพียงเตากับหม้อหุงข้าว และขวดเหล้าเปล่าที่กองไว้ให้ดูต่างหน้า ส่วนค่าเสียหายต้องรอตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาประเมินอีกครั้ง

วาทิตย์ แสนธุปี ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า