รวมพลัง!! เสนอขยายถนน “ถนน 100 ศพ” ช่องเขาตะโก หลังรัฐบาลสั่งระงับอ้างมรดกโลก

กธจ.สระแก้ว เสนอให้คนสระแก้วรวมพลังแก้ไขเร่งด่วน กรณีถนนสาย 348 ช่องเขาตะโก หรือ”ถนน 100 ศพ” หลังเกิดอุบัติเหตุไฟลุกท่วมจนมีผู้เสียชีวิตซ้ำซาก ล่าสุด 6 ล้อชนสนั่นกระบะ ตาย 3 ศพ ระบุรัฐบาลนี้ไม่เห็นความสำคัญของปัญหานี้ ใช้มติ ครม.สั่งให้ระงับการขยายถนน อ้างพื้นที่มรดกโลก

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดอุบัติเหตุรถ 6 ล้อ บรรทุกเกลือ ขณะขับลงเขาช่องตะโก ถนนสาย 348 (สระแก้ว-บุรีรัมย์) เสียหลักชนกับรถยนต์กระบะฟอร์ด เป็นเหตุให้รถตกเขาเกิดไฟลุกไหม้ มีผู้ติดอยู่ในรถกระบะ 2 รายและภายในรถ 6 ล้อ อีก 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่าง งัดร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ รวมผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย นั้น โดยกรณีดังกล่าว อ.สมิทธิ์ เย็นสบาย ในฐานะกรรมการธรรมาภิบาล จ.สระแก้ว และองค์กรสมาชิกสมัชชาสิ่งแวดล้อม ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้ติดตามปัญหาเรื่องช่องเขาตะโกมาระยะหนึ่ง ทางเราได้รับการร้องเรียนจากประชาชนชาวสระแก้วทั้งทางอ้อมและทางตรง ในเรื่องความเดือดร้อนบนถนนเส้นทางนี้ จึงได้นำเสนอให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และได้รับมอบหมายให้รองประธานธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว นายสาโรจน์ ทองพรหม และคณะ ติดตามร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จึงมีความคืบหน้าและรับทราบข้อมูลต่าง ๆ มาบ้างแล้วบางส่วน

ทั้งนี้ อ.สมิทธิ์ กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับหลายหน่วยงานในจังหวัดสระแก้ว กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ปัญหาเกิดจากหน่วยงานมรดกโลกมีมติไม่เห็นชอบ โดยเฉพาะงานการขยายถนนในช่วง 3 กิโลเมตร ที่เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา ซึ่งถูกควบรวมเป็นพื้นที่มรดกโลกเขาใหญ่-ดงพญาเย็น ขณะเดียวกัน กธจ.สระแก้ว จึงได้เดินทางไปพบปะกับประธานที่ปรึกษามรดกโลก นายมาโนช วีระกุล ที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นชาวสระแก้วด้วย ได้ทราบว่า สาเหตุที่ทางมรดกโลกไม่เห็นชอบ เพราะผลการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ของบริษัทที่ปรึกษาจัดทำ เป็นงานวิชาการที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่า-ป่าไม้ และระบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์

ต่อมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงเสนอรายงานของมรดกโลก และขอมติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 สรุปมีมติว่า “ให้ระงับการขยายเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 (สระแก้ว-บุรีรัมย์) ในกลุ่มป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่ หรือช่องตะโก ไว้ก่อน และให้มีการทบทวนการก่อสร้างโดยไปพิจารณาเส้นทางอื่นแทน”  ซึ่งกรณีนี้ จึงถือเป็นการตอกฝาโลงด้วยมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งหมายความว่า จะเข้าไปสำรวจใหม่ไม่ได้แล้ว อย่าว่าแต่จะขยายถนนใด ๆ เลย” กธจ.สระแก้ว กล่าว

อย่างไรก็ตาม อ.สมิทธิ์ ยังบอกอีกว่า ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า ความจริงยังมีรายละเอียดอีกหลายเรื่อง ไม่สามารถเล่าได้หมด น่าเสียดายที่ จ.สระแก้วเราที่มีแต่คนพูด แต่ขาดการรวมพลังกันเพื่อติดตามอย่างจริงจัง ไม่รู้ว่ายังต้องมีคนตายเพราะอุบัติเหตุและเกิดความสูญเสีย เสียหายทางเศรษฐกิจแบบนี้อีกนานเท่าไร โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีรถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก พวกผมคงต้องขอแรงให้ชาวสระแก้ว หันมาสนใจกับเรื่องนี้มาก ๆ ทางแก้ยังมีหนทาง โดยเฉพาะต้องพุ่งเป้าไปที่การขอแก้ไข มติ ครม.เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560 เสียก่อน

รัฐบาลชุดนี้แปลกมาก ห่วงแต่เรื่องมรดกโลก แต่ไม่ห่วงชีวิต ทรัพย์สินและเศรษฐกิจของประชาชน โดยเฉพาะหลังวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่ทราบว่าคนที่ขัดขวางไม่ยอมแก้มติ ครม.ในเรื่องนี้ เขาใช้อะไรคิด”  อ.สมิทธิ์ กล่าวในตอนท้ายให้ทุกคนได้คิด และช่วยกันผลักดันการแก้ปัญหาดังกล่าว

นายยุทธนา  พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า