สลด! 2 หนุ่มสาวขับจยย.ฝ่าสายฝนกลับที่พักหลังเลิกงาน รถเสียหลักล้มร่างแฟนหนุ่มกระเด็นถูกรถพ่วงทับศีรษะเละเสียชีวิตคาที่ ส่วนรถบรรทุกพ่วงขับหลบหนี
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 10 มิถุนายน 2565 ร.ต.อ.สุภสิทธิ์ สุดาเดช พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร พระอินทร์ราชา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ถูกรถบรรทุกพ่วงไม่ทราบทะเบียนเฉี่ยวชนและทับซ้ำจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย บริเวณ ถนนคู่ขนาด ถนนพหลโยธิน ขาเข้า ใกล้เคียงต่างระดับบางปะอิน ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 50 หมู่ที่ 8 ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าไปให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนมืด มีฝนตกโปรยปราย พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้ เวฟ สีขาวดำ หมายเลขบะเบียน 1 กง 6126 ชัยนาท ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย ตรวจสอบตามบัตรประชาชน ทราบชื่อ นายกฤษดา แสงตา อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 70 หมู่ที่ 12 ตำบลหน่อม อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด สภาพสวมใส่เสื้อยืดสีดดำแดง กางเกงวอมขายาวสีดำ ร้องเท้าผ้าใบ ศีรษะถูกทับเละ มันสมองกระจายเกลื่อนถนน และยังพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิงอีก 1 รายเจ็บเล็กน้อย ชื่อ น.ส.นนทิชา ถิ่นสำอางค์ อายุ 19 ปี ชาว ตําบลแม่เล่ย์ อําเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ แฟนสาวผู้เสียชีวิตยังอยู่ในอาการช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.นนทิชา แฟนสาว ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองและแฟนหนุ่มเลิกงาน กำลังขับรถจักรยานยนต์จะกลับที่พักในพื้นที่ ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย พอมาถึงจุดเกิดเหตุ เป็นช่วงฝนตก ตอนนั้นแฟนขับมามีรถบรรทุกพ่วงขับคู่กันมา จังหวะนั้นคงเหยียบน้ำกระเด็นใส่ แฟนเลยปัด เสียหลักล้มรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวเลยเหยียบซ้ำอีกที ตอนนั้นตนลุกขึ้นมาได้ก็เห็นสภาพแฟนเป็นแบบนี้แล้ว รถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวก็ขับไปเลยไม่จอดลงมาดูแม้แต่นิดเดียว
ด้าน นาย วรพจน์ แก้วสุ่น อายุ 31 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู บอกว่ารับแจ้ง ว่ามีรถบรรทุกพ่วงเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ พอมาตรวจสอบก็พบว่าเสียชีวิต สอบถามแฟนที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วยกันบอกว่ารถบรรทุกพ่วงแม่ลูกเกี่ยว จนล้มและถูกทับซ้ำ ตรวจสอบก็พบว่าถูกทับเข้าที่หัวเสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลบางปะอิน พร้อมเชิญแฟนสาวสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง รวมทั้งตรวจสอบหากล้องวงจรปิด ในละแวกใกล้เคียง เพื่อหารถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวมาดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ศักดริน พุทธคาวี /อยุธยา