ชาวบ้านประชันโชว์ฝีมือแข่งขันว่าวจุฬาส่ายสวยขึ้นสูง

กลุ่มเล่นว่าวหลายจังหวัด นำว่าวมาแข่งขันบริเวณทุ่งกว้าง หน้าวัดช่องลม เขตรอยต่อระหว่าง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม  เพื่อสืบสานอนุรักษ์ว่าวไทยโบราณให้คงอยู่

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 65  ที่ผ่านมา ช่วงเดือน 4 ถึงเดือน 5 ของทุกปี จะมีการแข่งขันว่าวไทยโบราณ เป็นว่าวจุฬาและว่าวปักเป้า ที่มีมาแต่สมัยกรุงสุโขทัยมาจนถึงปัจจุบัน มีบางช่วงที่เริ่มจะเลือนหายไปแล้ว  แต่ยังคงมีบางท้องถิ่นที่ยังคงร่วมกันสืบสานอนุรักษ์ไว้ และร่วมกันสืบสานศิลปวัฒนธรรมการทำว่าวไทยมาถึงทุกวันนี้ จนกลายเป็นประเพณีการแข่งขันว่าวไทยที่หลายจังหวัดได้ให้ความสำคัญ   พอถึงช่วงหลังเกี่ยวข้าวเสร็จและย่างเข้าสู่ช่วงเดือน 4 ถึงเดือน 5 ซึ่งเป็นลมว่าวที่มีชาวบ้านนำว่าวที่ทำไว้หลายรูปแบบออกมาชักเล่นกันตามท้องทุ่งนา และสนามที่ค่อนข้างกว้างกันอย่างสนุกสนาน

อย่างที่บริเวณทุ่งกว้าง หน้าวัดช่องลม เขตรอยต่อระหว่าง  อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เป็นอีกสนามหนึ่งที่มีชาวบ้านจาก  จ.ราชบุรี   จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม จ.นครปฐม  และกรุงเทพฯ  ทั้งผู้สูงอายุ วัยรุ่น หนุ่มสาวรวมกลุ่มกัน  นำว่าวจุฬาและว่าวปักเป้า และว่าวอื่น ๆ  ใส่รถมาเข้าร่วมแข่งขันกันอย่างคึกคัก กลายเป็นประเพณีแข่งขันว่าวไทยเป็นประจำทุกปี หวังที่จะช่วยกันอนุรักษ์กีฬาว่าวไทยให้คงอยู่ไปชั่วลูกหลานให้ยาวนานที่สุด ในการแข่งขันนั้นสิ่งสำคัญ คือต้องดูทิศทางลมว่ามาจากทิศไหน จึงสามารถนำว่าวขึ้นเล่นทะยานบนท้องฟ้า เล่นต่อสู้กันนำไปสู่ชัยชนะจ้าวแห่งเวหาได้ในแต่ละประเภทได้ การขึ้นว่าวบางตัว ขึ้นไม่ดีสายพันกันตกลงมาหัวทิ่มพื้นก็มี อยู่ชั้นเชิงในการเล่น

ร.ต.ท.ธีระ คงแสงบุตร ผู้จัดการแข่งขัน  กล่าวถึงการเล่นว่าวว่า  การทำว่าวไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ รุ่นเก่าจะวัดการแพ้หรือชนะกันบนท้องฟ้า อยู่ที่จังหวะลมเป็นตัวกำหนด การแข่งว่าวเล่นว่าวมีด้วยกันอยู่ 2 ชนิด มีสูงส่ายสวย และว่าวสวย   และมีอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าลมวันนั้นเป็นใจดี  ก็จะมีการต่อสู้ว่าวจุฬากับว่าวปักเป้าเหมือนกับที่ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ  การจัดงานครั้งนี้ได้รับการอุปถัมภ์ จากสมาคมกีฬาไทยแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

นายพนัส เทียนศิริ ( เม่น มหาชัย ) ผู้เชียวชาญด้านการทำว่าวแห่งมหาชัย จ.สมุทรสาคร  กล่าวว่า   การจัดงาน จะมีค่าใช้จ่ายทุกคนที่มาแข่งขันจะมีรางวัลให้  ชนะเลิศที่ 1 ที่ 2 ที่ 3  การแข่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ ว่าวสวยงาม และว่าวคว้า ส่วนวันนี้การแข่งขันว่าวคว้าต้องงดเล่นเพราะมีลมน้อยเล่นไม่ได้ ซึ่งกติกาคือ ขึ้นสูงส่ายสวยเป็นจุดสำคัญที่สุดโดยมีลมเป็นตัวกำหนดการเล่น  การเล่นว่าวในปัจจุบันยังคงมีบางแห่งที่ยังคงเล่นอนุรักษ์อยู่ เช่น จ.นครปฐม เน้นว่าวสวยงาม  จ.สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และกรุงเทพฯจะเน้นว่าวคว้า เพราะมีความมันจากการแข่งขันคว้ากันกลางอากาศเหมือนกับแข่งที่สนามหลวง  ความหมายคำว่า “ คว้า ” คือ จุฬาอยู่ด้านเหนือลม ปักเป้าอยู่ด้านใต้ลม และการคว้าทางจุฬาจากข้างบนลงมาคว้าปักเป้าในเขตแดน แล้วดึงเข้าว่าวจุฬา มีกติกาอยู่หลายข้อที่มีผลแพ้ชนะกัน  สมัยก่อนเคยแข่งขันที่ท้องสนามหลวง แต่ปัจจุบันมีหลายท้องที่การแข่งขันยาวนานับร้อยปีมาแล้ว

สมัยนี้เด็กจะยึดติดโทรศัพท์มือถือกันมาก  เมื่อวัฒนธรรมที่เคยทำมาก่อน แต่ถูกหลงลืมไปจากที่เคยเล่นว่าวกันมาเมื่อหลายสิบปี แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาทำให้เด็กค้นคว้าหาสิ่งแปลกใหม่ในโทรศัพท์ บางคนมีกิริยาก้าวร้าว โดยกีฬาว่าวเป็นกีฬาที่สร้างสันทนาการดึงเด็กออกมาได้ ซึ่งได้พยายามทำอยู่ทุกชุมชนทั่วประเทศที่เราได้แข่งขันว่าวในพื้นที่ โดยจะดึงเด็กให้ออกมาจากพื้นที่กรอบสี่เหลี่ยม โดยพยายามเก็บว่าวจากการแข่งขันแล้วนำไปแจกตามห้องสมุดโรงเรียนต่าง ๆ สามารถขอมาได้ อยากให้เด็กได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับว่าว  ซึ่งถือว่าเป็นมรดกของไทยโบราณ  โรงเรียนไหนสนใจอยากได้ว่าวให้ติดต่อมาจะนำไปมอบให้ เบอร์  095-4686382


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า