นาทีชีวิต!! กู้ภัยช่วยเจ้าของกระชังปลาถูกน้ำไหลพลัด

นาทีชีวิตกู้ภัยช่วยเจ้าของกระชังปลาถูกน้ำไหลพลัดเชือกขาดไหลตามกระแสน้ำ

วันที่17 ส.ค.65 เวลา 17.30น. เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี ได้รับแจ้งจากประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสักว่ามีแพกระชังปลาถูกน้ำไหลเชี่ยวพลัดแพกระชังปลาไหลตามกระแส น้ำบริเวณ แม่น้ำป่าสัก หมู่ที่ 2 ต.ศาลารีไทย อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และมีคนติดมาอยู่บนแพกระชังปลา และชายที่อยู่บนแพกระชังร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงรีบประสานเรือเร็วของเทศบาลเมืองสระบุรี ให้เข้าช่วยเหลือเนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงเพราะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ระบายน้ำเพิ่มส่งผลให้น้ำในแม่น้ำป่าสักไหลแรง และเชี่ยว ในที่เกิดเหตุมีประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสักได้พยายามช่วยเหลือชายที่อยู่บนแพกระชังปลา แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยว

ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสระบุรี ได้นำเรือเร็วมาถึงยังแพกระชังปลา และพยายามช่วยชายที่อยู่บนแพกระชังปลาให้ขึ้นเรือเร็วที่ขับมาช่วยเหลือ พยายามใช้เชือกผูกที่กระชังปลา และนำเชือกไปผูกกับต้นไม้ใหญ่ที่ริมแม่น้ำป่าสัก ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงจึงสามารถใช้เชือกผูกรั้งกับต้นไม้ไว้ได้สำเร็จ เนื่องจากถ้ายังผูกเชือกรั้งเชือกผูกกับต้นไม้ไม่ได้ แพกระชังปลายังคงไหลตามน้ำไปก็จะไหลไปถึงเขื่อนพระรามหก ในตำบลท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอีกประมาณ 2 กิโลเมตรก็จะถึงเขื่อนพระรามหก ถ้าเกิดไปถึงเขื่อนพระรามหกก็จะถูกน้ำไหลเข้าไปที่บานประตูทำให้แพกระชังปลาพังพินาศ เสียหาย และชายที่อยู่บนแพกระชังปลาอาจถูกน้ำพลัดเข้าไปในบานประตูของเขื่อนที่เปิดระบายน้ำเสียชีวิตได้

สอบถามนาย คมสันต์  แสงทองย้อย เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี เล่าว่าขณะที่ตนเข้ามาช่วยเหลือแพกระชังปลาได้ถูกน้ำไหลมาถึงหน้าที่ว่าการอำเภอเสาไห้ มีชายเป็นเจ้าของแพกระชังปลาได้ติดมากับแพกระชังปลาด้วย ซึ่งน้ำไหลแรงมากตนพร้อมเพื่อนกู้ภัยฯได้พยายามใช้เชือกไปผูกกับแพกระชังปลา แต่เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแพปลาได้ไหลตามน้ำมาประมาณ 2 กิโลเมตร จนมาถึงหมู่ที่ 4 ต.เมืองเก่า อ.เสาไห้ จ.สระบุรี จึงสามารถผูกแพกระชังปลากับต้นไม้ไว้ได้สำเร็จ และถ้าเกิดช่วยเหลือตรงจุดนี้ไม่ได้ตนได้ประสานกู้ภัยฯที่รออยู่ด้านหน้า อีกทีมไว้แล้ว

ด้านนาย ธีรพัฒน์ สังข์เงิน อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของแพกระชังปลา และเป็นชายที่ลอยมากับกระชังปลาเล่าว่า ขณะที่ตนกำลังลงไปใช้เชือกผูกแพกระชังปลา เชือกเส้นแรกเกิดขาด ตนก็จะใช้เชือกเส้นที่ 2 กับ3 ไปมัดแพกระชังปลา ยึดที่ริมตลิ่ง สรุปเชือกเส้นที่ 2 กับ 3 เกิดขาดอีกทำให้แพกระชังถูกน้ำไหลพลัดไปกับกระแสน้ำอย่างรวดเร็ว ตนเองเห็นท่าไปดีจึงกระโดดเกาะไปกับแพกระชังปลาด้วย ซึ่งมีปลาทับทิม อยู่ในกระชังเป็นจำนวนมาก สาเหตุที่ตนไม่ทิ้งแพกระชังปลาทับทิมเพราะตนห่วงกระชังปลา และปลาที่อยู่ในกระชัง ตนว่ายน้ำเป็น ถ้าเกิดแพกระชังปลาไหลไปถึงเขื่อนพระรามหกตนก็จะเกาะไปกับแพกระชังปลาด้วย เพราะตนมีความผูกพันกับกระชังปลามาก ขณะที่แพกระชังปลาตนไหลตามน้ำมาตนก็ได้ร้องให้คนที่อยู่ริมตลิ่งช่วยตลอดเวลา วันนี้น้ำในแม่น้ำป่าสักได้ไหลแรงมาก ซึ่งมีแพกระชังปลา 3 กระชังได้รับความเสียหายและยังมีปลาทับทิมอีก 3 พันตัวที่หลุดไปกับน้ำได้รับความเสียหาย ซึ่งตนจะจับปลาขายอยู่อีกไม่เกิน 2 วันซึ่งตนก็ไม่โทษเขื่อนที่ปล่อยน้ำมาเป็นเพราะเราดูแลกระชังปลาไม่ดีเองมากกว่า

ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ จังหวัดสระบุรี


Scroll to Top

แฉข่าวเด่น ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า