เครือข่ายม่อนแจ่ม จำนวน กว่า 300 คน เดินเท้าบุกศาลากลางร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายม่อนแจ่ม ยื่นหนังสือ “ทต.แม่แรม-อำเภอ-จังหวัด” เรียกร้อง 3 ข้อ หยุดดำเนินคดีชาวบ้าน จัดทำแผนแม่บท ชะลอใช้ กม.ควบคุมอาคาร-โรงแรม จนกว่าได้รับคำตอบ กก.นโยบายที่ดินแห่งชาติ วอนอย่าเลือกปฏิบัติกับชาวม้งที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 เมษายน 2565 ที่เทศบาลตำบล (ทต.) แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เครือข่ายชาวม่อนแจ่มเพื่อสิทธิในที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ต.แม่แรม กว่า 1,000 คน นำโดยนายเอกรินทร์ นทีไพรวัลย์ แกนนำเครือข่ายได้ชุมนุม พร้อมยื่นหนังสือกับนายวิชิต เมธาอนันต์กุล นายก ทต.แม่แรม เพื่อเรียกร้องขอให้หยุดกลั่นแกล้งชาวบ้าน และใช้บังคับกฎหมายอย่างเป็นธรรมก่อนนายวิชิต ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งขบวนจากหน้า ทต.แม่ริม เคลื่อนไปยังศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อ.แม่ริม ที่อยู่ห่างจากเทศบาลกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งขบวนยาวกว่า 500 เมตร มี พ.ต.อ.สิทธา คำเลิศ ผกก.สภ.แม่ริม นำกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและการจราจร กว่า 20 นาย และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าวและความมั่นคงสังเกตการณ์กว่า 10 นาย โดยใช้เวลาเดินเท้าไปยัง อ.แม่ริม กว่า 1 ชั่วโมง
จากนั้นนายเอกรินทร์ ได้ยื่นหนังสือกับนายภัควัต ขันธหิรัญ นายอำเภอแม่ริม ซึ่งระบุข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1. ให้หยุดการจับกุมดำเนินคดีชาวบ้านม่อนแจ่ม โดยทันที และดำเนินการพิสูจน์สิทธิในที่ดินชาวบ้าน ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินเฉพาะภาคเหนือ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2542 หรือ 23 ปีที่ผ่านมา 2, ให้จัดทำแผนแม่บท (Master Plan) การบริหารจัดการพื้นที่ม่อนแจ่ม ตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 3.ให้หยุดใช้พระราชบัญญัติควบคุม และพระราชบัญญัติโรงแรมดำเนินคดี โดยเลือกปฏิบัติกับชาวบ้านผู้ประกอบการให้บริการที่พักนักท่องเที่ยว
นายเอกรินทร์ กล่าวว่า ชาวม่อนแจ่มขอเรียกร้องอย่างสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายอำเภอแม่ริม และนายก ทต.แม่แรม ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำวินิจฉัยของรัฐและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พร้อมชะลอการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคารและโรงแรม จนกว่าได้รับคำตอบจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่ให้ปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 6/2562 ก่อน “การเรียกร้องดังกล่าว ไม่มีเจตนาให้ร้าย ข่มขู่ หมิ่นประมาท หรือกระทำการให้เกิดความเสื่อมเสียอย่างใด แต่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติต่อชาวม้ง ที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ เนื่องจากมีชาวบ้านถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกป่าเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย 4-5 รายแล้ว โดยขอให้ส่วนราชการ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเท่านั้น” นายเอกรินทร์ กล่าว
นายภัควัต กล่าวภายหลังรับเรื้่องดังกล่าวว่า จะนำเสนอผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน ซึ่งทางอำเภอได้แก้ปัญหาเรื่องขอจดทะเบียนราษฎร จัดทำแแม่บทและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวบ้านม่อนแจ่มอยู่แล้ว ไม่ได้เลือกปฏิบัติอย่างใด
ด้านนายวิชิต กล่าวว่า ทางเทศบาล มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขประชาชน ส่วนข้อเรียกร้องดังกล่าว จะทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาโดยเร็ว และให้เกิดเป็นรูปธรรมมากที่สุด พร้อมเสนอต่อสภาเทศบาลเพื่อจัดตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาดังกล่าว ตามอำนาจหน้าที่ เพื่อส่งเสริมท่องเที่ยวม่อนแจ่มแบบยั่งยืน เพื่อสร้างงานและกระจายรายได้สู่ชุมชน พร้อมฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า และร่วมมือกับทุกภาคส่วนให้ชาวม่อนแจ่ม มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นตามลำดับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันเดียวก้น เครือข่ายดังกล่าว ไปยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดต่อไป
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่