เจ้าของที่ดิน ส.ป.ก. ปิดทางเดินเข้าออกท้ายหมู่บ้านที่เคยใช้ร่วมกันมากว่า 30 ปี ชาวบ้านเดือดร้อน วอนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด่วน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านโนนม่วงใต้ หมู่ 13 ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัว ประสบปัญหาถนนถูกตัดขาด ได้มอบหมายให้ นายอธิป ทิพย์รักษา ปลัดอำเภองานศูนย์ดำรงธรรม พร้อมด้วย นายเจษฎา คำภักดี นิติกรชำนาญการสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่กองช่างสำนักงานเทศบาลเทศบาลตำบลหนองหญ้าลาด ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี ชาวบ้านโนนม่วงใต้ หมู่ที่ 13 ต.หนองหญ้าลาด ร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.กันทรลักษ์ ว่า ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากถูกปิดทางสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเป็นระยะทางกว่า 10 เมตร ชาวบ้านเดินทางไปมาไม่ได้
ตามที่ ชาวบ้าน จากหมู่บ้านโนนม่วงใต้ หมู่ 13 ต.หนองหญ้า ได้เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรม อ.กันทรลักษ์ ว่าได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากเจ้าของที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.ได้ปิดเส้นทางสัญจรของชาวบ้าน โดยมีนายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ รับเรื่องร้องเรียนไว้แล้ว และได้เร่งดำเนินการทำหนังสือด่วน ถึง สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) จังหวัดศรีสะเกษ ขอให้ออกมาตรวจสอบที่ดิน ตามเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. ที่มีปัญหา เพื่อให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน
ชาวบ้านเล่าว่า เส้นทางที่เคยใช้เดินทางสัญจรไปมาตั้งแต่รุ่นป่าย่าตาทวด มีช่วงหนึ่งระยะทางประมาณ 10 กว่าเมตร เส้นทางดังกล่าวผ่านที่ดินของนาย เหรียญ พื้นผา ซึ่งได้รับเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ได้รับเอกสาร ส.ป.ก. นายเหรียญ เจ้าของที่ก็ทำการปิดเส้นทางสัญจรที่ชาวบ้านมีที่ดินอยู่ด้านในกว่า 20 ครอบครัว ประมาณ 100 คน พื้นที่มีทั้งที่เป็นนา และสวน รวมประมาณ 1,000 ไร่ ถนนที่เคยสัญจรชาวบ้านไม่สามารถใช้รถยนต์ผ่านไปมาได้ การที่จะขนส่งผลผลิตไปส่งขายเหมือนแต่ก่อนก็ทำไม่ได้ โดยเจ้าของที่ดินนำป้ายมาติดไว้มีข้อความว่า “พื้นที่ส่วนบุคคล ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต”
นางประพิศ พื้นผา ภรรยาของนายเหรียญเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว ได้มาเจรจากับเจ้าหน้าที่และพูดคุยกับชาวบ้าน เปิดเผยว่า ย้อนหลังกว่า 30 ปี ได้เปิดเป็นทางให้น้องชายของนายเหรียญได้ใช้ประโยชน์ ต่อมาระยะหลังก็มีชาวบ้านมาใช้จนทุกวันนี้ และหากมีถนนผ่ากลางที่ดิน ที่ก็จะเกิดการแบ่งแยกเป็น 2 แปลง ซึ่งเจ้าของที่ มีลูก 3 คน ไม่อยากให้ลูกชายลูกสาว มีปัญหากัน จึงได้ปรึกษาหารือกัน ซึ่งวันนี้มีลูกสาวมาเป็นตัวแทน 1 คน เมื่อมีการแบ่งแยกเขตจะไม่เท่ากัน ทางครอบครัวตนซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนี้ เป็นห่วงว่าจะเกิดปัญหาในอนาคต เนื่องจากถนนทางเดินเดิมตัดผ่ากลางที่ดินแปลงของตน จึงตัดปัญหาโดยให้ปิดถนนเส้นทางเดิมนี้แล้วให้ชาวบ้านทำถนนใหม่ไปตามเขตแดนที่ดินของตนและที่ดินของเพื่อนบ้านแปลงที่อยู่ติดกับของตน ให้บริจาคร่วมกัน ข้างละเท่าๆ กัน สละที่ดินมอบให้เป็นของสาธารณะใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตนยินดีร่วมบริจาคของส่วนรวม ทำถนนอ้อมไปหน่อยแล้วมาเชื่อมกับเส้นเดิม
นางสมใจ เขตสกุล หนึ่งในชาวบ้านที่เดือดร้อน กล่าวว่า ที่ดินแปลงของตน ได้รับมรดกจากแม่มา 12 ไร่ ได้แบ่งทำถนนไป 170 เมตร เดือดร้อนมากเพราะพ่ออายุ 68 ปีอาศัยอยู่บนที่ดินดังกล่าว พ่อป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ ตนต้องเดินเข้าไปตั้งไกล เพื่อดูแลพ่อ ได้รับความลำบากมาก จึงอยากขอให้เปิดทางให้ใช้สัญจรไปมาเหมือนเดิม
ซึ่งการเจรจากัน ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นไม่ตรงกัน เจ้าหน้าที่ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้นัดหมายมาเจจากันใหม่อีกครั้งหนึ่ง.
ณัฐธรชนม์ สิริโชติสกุล / ศรีสะเกษ