เมื่อเวลา 14.20 น.วันที่ 7 ก.พ.65 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุม 2 มือปืนที่ก่อเหตุยิงชายชาวแคนาดาเสียชีวิตหน้าวิลล่าในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่าผู้ตายอาจใช้หนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)หลายเล่ม ซึ่งอาจเป็นไปได้ผู้ตายอาจถือหลายสัญชาติก็ไม่ได้หมายความผิดกฎหมายอะไร แต่การเข้ามายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ตมีการสแกนเก็บภาพใบหน้าและเก็บประวัติตามปกติ ขณะเดียวกันถ้าก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยเข้ามายังประเทศไทยกี่ครั้ง และใช้ชื่อของใครและชื่ออะไร โดย ตม.จะต้องไปตรวจสอบย้อนหลัง เพราะถ้าผู้ตายเคยเดินทางเข้ามายังประเทศไทยก่อนวันที่ 27 ม.ค.65 ข้อมูลจะต้องมีการบันทึก และเมื่อผู้ตายเข้ามาวันที่ 27 ม.ค.65 ภาพหน้าพาสปอร์ตหรือภาพถ่ายผู้ตายจะต้องขึ้นโชว์ และยิ่งถ้าเป็นคนละชื่อกัน หน้าพาสปอร์ตจะขึ้นโชว์ทั้ง 2 เล่ม
ทั้งนี้ข้อมูลการสืบสวนสอบสวนจะพูดได้แค่ที่สามารถพูดได้ เพราะมีทั้งบวกและลบ โดยการเก็บข้อมูลชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าเมืองไทยด้วยระบบไบโอเราจะทราบเมื่อคนๆนั้นเดินทางกลับเข้ามาครั้งที่ 2 แต่ไม่ได้ใช้ชื่อหนังสือเดินทางเหมือนครั้งแรก ประวัติจะบันทึกและแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีผู้ตายใช้หนังสือเดินทางตามที่พบในห้องพักนั้น จากการสอบถามไปยังประเทศแคนาดา ปรากฎว่าหนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวของผู้ตายเป็นหนังสือที่ออกจากทางการของประเทศแคนาดาจริง เป็นหนังสือเดินทางจริง แต่มีการนำมาเปลี่ยนข้อมูลเท็จในพาสปอร์ต ทำให้เราไม่สามารถรู้ได้ว่าจริงไม่จริง แม้แต่ทั่วโลกก็ไม่รู้ เพราะเป็นหนังสือเดินทางที่ออกจากทางการของประเทศนั้นๆ ทั้งนี้เราไม่รู้เลยว่าผู้เสียชีวิตเคยไปก่อเหตุอะไรมาหรือเคยไปทำอะไรมา ตราบใดประเทศนั้นไม่ได้แจ้งเรามา ไม่เคยมีการส่งหมายจับมาให้เราๆจึงไม่รู้ได้ว่าผู้เสียชีวิตไปทำอะไรมา สำหรับในส่วนของคนร้ายในตอนนี้ก็ยังไม่ฟันธงว่าเป็นคนต่างชาติหรือไม่ ส่วนคนร้ายจะอยู่ในพื้นที่หรือหลบหนีไปแล้วยังไงเราก็ต้องติดตามจับกุมตัวมาให้ได้
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่าจากแนวทางการสืบสวนพบ 2 มือปืนที่ก่อเหตุได้มาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ตก่อนลงมือสังหารผู้ตายราว 1 สัปดาห์ โดยมือปืนทั้ง 2 มักจะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ราไวย์ โดยทำตัวเหมือนกับชาวต่างชาติที่อยู่ใน จ.ภูเก็ต ทั่วไป จึงเชื่อได้ว่ามือปืนอาจอยู่ในพื้นที่หรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย จนผู้ตายเดินทางมายัง จ.ภูเก็ตจึงสบโอกาสลงมือสังหาร เนื่องจากผู้ตายอยู่เพียงลำพัง