พี่สาวโวยไฟไหม้บ้านกลางดึก โต้ว่าน้องชายวัย ติดยา เมาเหล้าหนักพูดจาไม่รู้เรื่อง ก่อนนอนตนเองเห็นเดินเข้าบ้านสักพัก เกิดควันขึ้นและเปลวไฟ ลุก ตนเองรีบลงไปดูพ่อชั้นล่างพาหนีไฟ
วันที่ 17 สิงหาคม 2565 เวลา 22.45 น. ร้อยตำรวจเอกโชติสว่าง สิงศรีโว รองสารวัตรสอบสวน สภ. แก่งคอย อ. แก่งคอย จ.สระบุรี ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลทับกวางและหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ ควบคุมเหตุ จากนั้น ได้ไปยังที่เกิดเหตุไฟไหม้ เมื่อไปถึง พบว่า เป็นบ้าน ของนางพิมพ์ลภัส วัดคำอายุ 46ปี บ้านเลขที่ 77 / 1 ม. 7 ชุมชนหินดาด ต.ทับกวาง อ. แก่งคอย จ.สระบุรี บ้านที่เกิดเพลิงไหม้เป็นบ้านที่ต่อเติมจากบ้าน 2 ชั้น ซึ่งอยู่บริเวณหน้าบ้านเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มุงหลังคาด้วยสังกะสี ซึ่งภายในตัวบ้านกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงเนื่องจากเป็นบ้านไม้ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยรถดับเพลิง จำนวน 4 คัน
จึงได้ทำการฉีดน้ำไฟที่กำลังโหมลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ จึงช่วยกันระดมรถน้ำดับเพลิงฉีดน้ำควบคุมเหตุ ซึ่งมีชาวบ้านแจ้งว่า มีคนติดภายในบ้าน พยายามฉีดน้ำ ควบคุมเพลิงป้องกันการลุกลาม ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เสียหายไฟไหม้ทั้งหลัง จากการสอบถาม นางพิมพ์ลภัส วัดคำ เจ้าของบ้าน กล่าวว่า เวลา 22.00 น. ตนเองขึ้นไปนอนแล้ว จากนั้นก็ได้ยินเสียงหมาเห่า ตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่เห็นนายยืนยง ละลี อายุ 43ปี ซึ่งเป็นน้องชายเดินเข้าบ้านซึ่งตนเองให้อยู่บ้านไม้ชั้นเดียวหลังที่เกิดเหตุไฟไหม้ จากนั้นไม่นานน้องชายตนเองก็เดินออกไปนอกบ้าน ไม่นานตนเองได้กลิ่นควันจึงเดินออกมาดูพบว่า บ้านไม้ชั้นเดียวซึ่งอยู่บริเวณหน้าบ้านมีควันและไฟลุกไหม้ ตนเองจึงรีบลงมาดูพ่อซึ่งอายุมากแล้วนอนอยู่ชั้นล่างของบ้าน พาออกไปจากห้อง
จากนั้นก็โทรแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย และเจ้าหน้าที่หน่วยสาธารณภัยเทศบาลทับกวางซึ่งอยู่ใกล้เหตุ หลังจากไฟไหม้ ตนเองเห็นน้องชายมีอาการเมา พูดจาไม่รู้เรื่องเดินเข้ามาบ้าน ตนเองจึงได้สอบถาม ทำไมไฟถึงไหม้ น้องชายตนเองจึงบอกว่า ตนเองเป็นคนเผา ตนเองโมโหมาก อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปดำเนินคดี จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า น้องชายเคยมีประวัติเสพยาเสพติดหรือไหม นางพิมพ์ลภัส วัดคำ เจ้าของบ้านบอกว่า น้องชายตนเองมีพฤติกรรมเคยเสพยาเสพติด(ยาบ้า ) และชอบดื่มเหล้ามานานแล้ว เคยมีประวัติถูกจับหลายรอบแล้ว และยังนำตัวไปบำบัดอีกหลายครั้ง เคยก่อเหตุเผาบ้านแม่ของตนเองเมื่อปีที่แล้ว แต่ตนเองดับทันจึงไม่เกิดไฟไหม้ ครั้งนี้เหลือทนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจับไปดำเนินคดี
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปพูดคุยกับนายยืนยง ละลีน้องชายเจ้าของบ้าน ซึ่งไม่ได้หนีไปไหน จึงได้เข้าไปสอบถามว่า เผาบ้านทำไม นายยืนยงบอกว่าไม่ได้เผา ผมออกไปกินเหล้ากับเพื่อนแล้ว เมากลับมา ( อาการเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง )
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนายยืนยง ละลี ไปสอบปากคำที่ สภ. แก่งคอย และจะได้ตรวจสอบ เก็บหลักฐาน ประกอบการดำเนินคดี หากพบพยานหลักฐานยืนยัน เป็นการก่อเหตุวางเพลิงเผาบ้านตัวเอง จะได้มีการ สอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ จังหวัดสระบุรี